ตร.ขอศาลอนุมัติหมาย จับคดีค้ากามเด็กหญิงที่แม่ฮ่องสอน คาดเป็นเจ้าหน้าที่ ขณะที่แม่ผู้เสียหาย พร้อมทนายโผล่มอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม ด้าน “ชาวแพร่” ไม่สบายใจคำสั่งย้าย “ด.ต.” สภ.น้ำเพียงดิน ที่ถูกกล่าวหาพัวพันคดี มาช่วยราชการในพื้นที่ ออกแถลงการณ์ถึง ผบช.ภาค 5 ผบก.แพร่ จี้ทบทวนด่วน แต่หากผลสืบสวนพบไม่เกี่ยวข้อง ก็ยินดีต้อนรับ

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภาคเหนือ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอ แห่งประเทศไทย(ส.ปอ.ท.) ยื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.สะอาด สุนทร ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เพื่อเรียกร้องให้ดีเอสไอรับคดีนายดาบตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน ที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์เป็นธุระจัดหา ข่มขู่บังคับให้เด็กหญิงค้าประเวณี เป็นคดีพิเศษ

นายบุญญฤทธิ์กล่าวว่า นอกจากตำรวจที่ถูกกล่าวหาแล้ว ทาง ส.ปอ.ท.ยังได้รับข้อมูลสำคัญ เชื่อว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง ที่มีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมสนับสนุนเกี่ยวข้องเป็นขบวนการ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2560 และอาจจะมีพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่กระทำความผิดอาญาร่วมด้วย อีกทั้งอาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย จากข้อมูลที่ปรากฏมีผู้เสียหายที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีจำนวนกว่า 20 คน

“พร้อมที่จะนำผู้เสียหาย และผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เดิมทีคดีนี้มีการแจ้งความ ตำรวจรับคดี แต่เมื่อการสืบสวนสอบสวนไปก็เจอตอ ทำให้การทำคดีล่าช้า และช่วยเหลือกัน อีกทั้งยังติดต่อแม่เด็กผู้เสียหาย โดยทั้งเสนอเงินและข่มขู่ ทำให้ครอบ ครัวเกิดความหวาดกลัว คดีนี้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษได้ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนกระทำผิดเสียเอง บางคนเป็นข้าราชการระดับสูงรับเด็กมาค้าประเวณี พาไปนอนที่พักข้าราชการเลยก็มี เด็กทุกคนที่ถูกบังคับขายตัวล้วนแต่มีหลักฐาน” ประธานส.ปอ.ท.กล่าว

พ.ต.ท.สะอาดกล่าวภายหลังรับหนังสือว่าจะสรุปเรื่องทั้งหมดเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณา ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ คงต้องรอการพิจารณาสักระยะหนึ่ง

ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวว่าหลังรับเรื่องร้องเรียนแล้ว จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพื่อพิจารณาและเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณา หากตรวจสอบแล้วเข้าเงื่อนไขเป็นคดีค้ามนุษย์ ก็จะรับเป็นคดีพิเศษต่อไป

ส่วน พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5 กล่าวว่าฝากถามญาติเด็กผู้เสียหาย กรณีที่บอกว่ามีเจ้าหน้าที่เสนอเงินให้ 1 ล้าน เพื่อปิดคดีและข่มขู่ อยากให้มาบอกกับตำรวจ หรือแจ้งเบาะแสให้ทราบด้วยว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นเป็นใคร จะดำเนินการให้ทันทีอย่างเฉียบขาด และพร้อมให้ความคุ้มครองหากร้องขอมา และจากการตรวจสอบสารยาเสพติดในตัวเด็กผู้เสียหายแล้ว ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด คดีนี้ตำรวจให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน สมาคมคนแพร่ จ.แพร่ ออกแถลงการณ์เรียกร้องไปยัง ผบช.ภาค 5 และ ผบก.แพร่ กรณีมีคำสั่งย้าย ด.ต.สังกัดสภ.น้ำเพียงดิน ที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ากามเด็กหญิง มาช่วยราชการที่ จ.แพร่ โดยระบุว่าหลังจากชาว จ.แพร่ ทราบข่าวว่ามีคำสั่งให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.แพร่ จึงมีความกังวลใจ เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง มีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ และคดีความก็ยังไม่กระจ่างชัด ชาว จ.แพร่ ส่วนใหญ่จึงไม่สบายใจต่อคำสั่งดังกล่าว

แถลงการณ์ระบุต่อว่า ดังนั้นขอให้แก้ไขคำสั่งย้ายตำรวจนายดังกล่าวออกจาก จ.แพร่ ไปปฏิบัติราชการที่อื่นๆ หรือสั่งพักราชการให้พ้นจาก จ.แพร่ แต่หากภายหลังการสืบสวนสอบสวนแล้วปรากฏว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี ทางเรายินดีที่ต้อนรับให้มาปฏิบัติหน้าที่ใน จ.แพร่ อีกครั้ง

พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.แพร่ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่าตำรวจที่ถูกกล่าวหายังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ยังไม่มีความผิดอยู่ในขั้นสอบสวน ขณะนี้ สภ.เมืองแพร่ มอบหมายหน้าที่ให้ทำงานหน้าที่สิบเวร และการที่ผู้บังคับบัญชาย้ายออกจาก จ.แม่ฮ่องสอน เพราะไม่อยากให้ไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน ส่วนการสอบสวนความผิดทางวินัยก็ยังไม่เสร็จ

ส่วน พ.ต.อ.ชลทฤษ ชัชวาลย์ ผกก.สภ.เมืองแพร่ กล่าวว่ามอบหมายให้ทำหน้าที่สิบเวร อยู่ด้านหน้าโรงพัก จะได้ควบคุมการทำหน้าที่วันละ 8 ชั่วโมง ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับประชาชน และไม่ให้ออกนอกพื้นที่ ถ้าหากจะออกนอกพื้นที่ต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชา

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ กล่าวว่าต้องแยกการดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกคือการดำเนินกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี หรือค้ามนุษย์ เบื้องต้นอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้อง มีกรอบระยะเวลาในการดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนที่ 2 คือสอบสวนตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องวินัยและอาญา ทราบว่ามีตำรวจนายหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างตั้งกรรมการสอบ พร้อมทั้งสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ เพื่อไม่ให้ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

รองโฆษกตำรวจกล่าวต่อว่า ส่วนที่ระบุว่ามีการวิ่งเต้นผ่านตำรวจชั้นผู้ใหญ่เพื่อล้มคดีนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าหากประชาชนทราบชื่อ หรือมีหลักฐาน ส่งมาให้ตำรวจดำเนินคดีได้ ยืนยันไม่มีการวิ่งเต้นช่วยเหลือตำรวจใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ความสำคัญและกำชับอยู่ตลอดเวลา หากพบการกระทำความผิดจริง ไม่เอาไว้เด็ดขาด รวมถึง รองผกก.ที่ถูกอ้างด้วย หากพบกระทำความผิด หรือเกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการเช่นกัน

ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เรียกประชุม พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ช่วยราชการ รองผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.ศตศักดิ์ พิมลทิพย์ ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุตร รองผบก.ปคม. เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน และในวันที่ 25 เม.ย. แม่ผู้เสียหายพร้อมทนายความอาจเดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เพื่อมอบพยานหลักฐานให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่าเร่งรัดคดีการค้ามนุษย์ และเตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง 1 ราย ส่วนรายอื่นๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานไปถึงใครก็ต้องดำเนินการไม่มีข้อยกเว้น ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีรองผกก.นายหนึ่งมาเกี่ยวข้องนั้นยังไม่ได้รับรายงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน