แฟนหนุ่ม ซ้อมโหด สุดวิปริต ต่อยท้อง ถุงพลาสติก-ที่หนีบผมยัดปาก ถุยน้ำสายใส่หน้า ล็อกคอจนสลบ สาวเกือบขาดใจตาย หนักสุดถึงขั้นสมองเคลื่อน โร่แจ้งความ

ซ้อมโหด วันที่ 21 ก.พ. ที่ สน.โชคชัย น.ส.นุ่น (นามสมมติ) เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากที่ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทะเลาะกับแฟนหนุ่มและถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บปางตาย จนต้องเดินทางมาแจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย

น.ส.นุ่น กล่าวว่า ตนคบกับฝ่ายชายมากว่า 5 ปี แค่ช่วง 2 ปีแรก ฝ่ายชายก็นอกใจไปหาผู้หญิงอื่นตลอด หลายครั้ง ตนจับได้ก็บอกว่าจะไม่ทำอีก แต่สุดท้ายก็ทำ นอกจากพฤติกรรมนอกใจแล้ว ฝ่ายชายยังชอบทำร้ายจิตใจ ด่าทอตนสารพัด ที่ผ่านมาตนก็อดทนมาตลอดเพราะว่ารักมาก แต่เมื่อทนไม่ไหวเลยตัดสินใจขอเลิก แต่ฝ่ายชายนั้นก็พยายามตามง้อตลอด จนกระทั่งตนใจอ่อน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

น.ส.นุ่น กล่าวต่อว่า แต่ในตอนนั้นตนก็ไม่ทราบว่า ตัวเองป่วยเป็นไบโพลาร์และเป็นโรคซึมเศร้า เพราะผลกระทบจากที่โดนทำร้ายจิตใจและเรายอมตลอด พอกลับมาคบกันในครั้งนี้ เวลาทะเลาะกัน ตนก็ไม่ได้ยอมเหมือนแต่ก่อน ตนเถียงและยอมรับว่าเป็นฝ่ายทำร้ายร่างกายฝ่ายชายก่อน แต่ฝ่ายชายก็ทำร้ายร่างกายกลับมาแบบรุนแรงจนตนได้รับบาดเจ็บ ถึงขั้นต้องแอดมิดเพราะสมองเคลื่อน พอทะเลาะกันเสร็จ เขาก็มักจะมาขอโทษและบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ

“ที่บาดเจ็บหนักที่สุดคือ ตอนที่เขาบีบคอเราแล้วเหวี่ยงทำให้หัวเรากระแทกกับกระจกในรถ เราก็ต้องไปโรงพยาบาลเพราะว่าปวดหัวมาก ต่อมาเขาก็มากราบเท้าแม่เรา บอกว่าจะไม่ทำร้ายร่างกายเราอีก แต่เขาก็ทำ จนล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ปีที่แล้ว ทะเลาะกันหนักมาก ฝ่ายชายต่อยท้องเราสองครั้ง ล็อคคอเราจนอ้วกแล้วสลบไปอยู่สักพัก พอฟื้นมาก็เห็นว่าเขามองเราอยู่ เราก็กำลัง งงๆ แต่พอนึกได้ว่าก่อนหน้านี้ทะเลาะกัน เราก็ไม่ยอม เลยทะเลาะกันต่อ” น.ส.นุ่น กล่าว

น.ส.นุ่น กล่าวต่อว่า จากนั้นฝ่ายชายจับตนกดที่เตียง มือทั้งสองข้างจับแขนตนไว้ แล้วเอาเข่ามาทับอยู่ที่หน้าหน้าอกตน จากนั้นก็ถุยน้ำลายใส่หน้า เขาทั้งเอาถุงพลาสติกยัดปาก เอาที่หนีบผมยัดปาก และก็เอาถุงพลาสติกถูหน้าจนเป็นรอย ตอนนั้นตนคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว เพราะเขาเอาหมอนอุดปากไม่ให้หายใจ เป็นระยะๆ ทำให้ตนหายใจลำบากมาก ตนจึงบอกว่า ให้ฆ่าไปเลย เพราะคิดว่าคงไม่รอดแล้ว แต่จู่ๆ ฝ่ายชายก็หยุด แล้วก็ถามว่าเป็นอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้ แล้วก็เข้ามาปลอบ

หลังจากนั้นตนจึงรีบโทรหาแม่ทันที แล้วแม่ก็บอกให้ผู้ชายคนนั้นออกไป เพราะว่าจะให้เพื่อนพามาโรงพยาบาล เนื่องจากเพื่อนไม่กล้ามา จนสุดท้ายผู้ชายยอมออกไปแล้วเพื่อนก็พาตนส่งโรงพยาบาล โดยหลังจากที่เกิดเรื่อง ก็นัดคุยค่าเสียหายกัน ซึ่งตนเรียกร้องไป 2 แสนบาท เพราะเป็นค่ารักษาพยาบาลและหนี้สินที่ฝ่ายชายยืมไป แต่ว่าฝ่ายชายกลับหายเงียบไม่สามารถติดต่อได้ ตนก็เลยมาแจ้งความไว้

โดยมีตำรวจบอกว่า จะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานทั้งหมด แล้วก็จะออกหมายเรียกให้ฝ่ายชายมาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งตนจะดำเนินคดีฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา แต่ถ้าหากฝ่ายชายยอมจ่าย 2 แสนบาท ตนก็จะไม่เอาความ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน