สั่งปิดไว้ก่อนชั่วคราว จันทร์นี้ลงพื้นที่ตรวจ “บ.ซีพีเอฟ”ก็ตั้งกก.คลี่ จ่ายเยียวยา-รายละ3ล. ให้ทุนลูก-จนจบป.ตรี

 

ส่ง 5 ศพเหยื่อบ่อมรณะกลับบ้านเกิดทำพิธีศพ น้องหวาย นิสิต จุฬาฯขึ้นเครื่องบินไปทำพิธีที่เชียงใหม่ เผยเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ขณะที่ย่ายังไม่ทราบข่าวเพราะเพิ่งเข้ารักษาตัวด้วยอาการเบาหวาน ขณะที่พนักงานอีก 4 คนก็แยกย้ายกันไป ผู้บริหารซีพีเอฟ เผยตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก เผยจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ต้องห้าม ไม่ทราบว่าเข้าไปได้อย่างไร ส่วนเรื่องเยียวยามอบให้รายละ 3 ล้านบาท และให้ทุนการศึกษาบุตรหลานจนจบปริญญาตรี ขณะที่ตร.เตรียมสอบสวนสรุปสำนวนว่าเป็นอุบัติเหตุหรือความประมาทเลิ่นเล่อของใครหรือไม่ กระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดบ่อบำบัดน้ำเสียซีพีเอฟชั่วคราว จนกว่าจะได้มาตรฐานความปลอดภัย

 

จากกรณีนิสิตคณะสัตวแพทย์ จุฬาฯ นิสิตฝึกงาน และพนักงานบริษัท ซีพีเอฟ เสียชีวิตหลังพลัดตกลงไปภายในบ่อบำบัดน้ำเสีย ภายในบริษัทซีพีเอฟ ซอย บางนา-ตราด 20 ขาเข้า แขวง-เขต บางนา 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายพรศักด์ บุญบาล อายุ 40 ปี 2.นายชาญชัย พันธุนาคิน อายุ 42 ปี 3.นายชาตรี สีสันดร อายุ 53 ปี 4.น.ส.ลักษ์ชนก แสนทวีสุข อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม โดยทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทซีพีเอฟ และ 5.น.ส. ปัณฐิกา ตาสุวรรณ อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะสัตวแพทย์ จุฬาฯ ที่เข้าไปดูงานภายในโรงงาน และพลัดตกลงไปในบ่อบำบัด ก่อนพนักงานจะลงไปช่วยและเสียชีวิตไปตามกันเนื่องจากขาดอากาศหายใจ

 

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่สน.บางนา นางนารี อาชโยธา ญาติพร้อมด้วยพ่อและแม่ ของนายพรศักดิ์ 1 ในพนักงานบริษัทซีพีเอฟที่เสียชีวิต เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำและข้อมูลของผู้เสียชีวิต รวมถึงมารับเอกสารไปติดต่อขอรับศพที่ภาควิชานิติเวช ศาสตร์ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ และจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดชัยภูมิ

 

นางนารีกล่าวว่า ไม่ติดใจกับการเสียชีวิตของหลานชาย เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ หลังเกิดเหตุบริษัทติดต่อเพื่อขอเยียวยาและรับผิดชอบแต่ละครอบครัวแล้ว แต่เงินที่ได้มาไม่ว่าเท่าใดก็คงไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียหลานชาย ยืนยันหลานชายไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตาย แต่เป็นการเข้าไปช่วยเหลือบุคคลอื่น เป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนในอนาคตหากตรวจสอบพบว่าเป็นความบกพร่องหรือประมาทจากหน่วยงานใด ก็พร้อมจะหารือกับครอบครัว เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาต่อไป

 

นอกจากนี้ยังมีครอบครัวผู้เสียชีวิตราย อื่นๆ จากเหตุการณ์นี้ ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดต่อให้ข้อมูลตำรวจ และนำเอกสารไปติดต่อขอรับศพที่นิติเวช จุฬาฯ

 

ด้านร.ต.อ.ภูมิวัฒนา ฤทธิ์ทอง ร้อยเวร (สอบสวน) สน.บางนา กล่าวว่า หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จะรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด บุคคลที่เกี่ยวข้องทุกระดับของบริษัท หน่วยงานที่กำกับดูแลโรงงาน และรอผลสำนวนชันสูตรพลิกศพ เพื่อให้ทราบเหตุแห่งการเสียชีวิต ก่อนสรุปสำนวนว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเกิดจากความประมาท

 

ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น. ที่สถาบันนิติเวช ร.พ.จุฬาฯ ญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาติดต่อเพื่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลในภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิต โดย 1.นายพรศักดิ์ ส่ง จ.ชัยภูมิ 2.ชาญชัย ส่ง จ.ตราด 3.นายชาตรี ยังไม่สามารถติดต่อญาติได้ 4.น.ส.ลักษ์ชนก นำส่ง จ.อุบลราชธานี และ 5.น.ส.ปัณฐิกา นิสิตจุฬาฯ นำส่ง จ.เชียงใหม่ โดยผลแพทย์หลังผ่าพิสูจน์ สาเหตุการเสียชีวิต เนื่องมาจากขาดอากาศขาดใจ โดยบริเวณที่สถาบันนิติเวชมีกลุ่มเพื่อนจุฬาฯ ของน.ส.ปัณฐิกา มารอรับศพด้วย โดยทุกคนไม่ขอให้สัมภาษณ์เนื่องจากยังเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ด้านน.ส.นงลักษณ์ ปัญญาวงศ์ อายุ 37 ปี พี่สาวของน.ส.ลักษ์ชนก เปิดเผยว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุตนเพิ่งแสดงความยินดีกับน้องสาวผ่านเฟซบุ๊ก ที่ได้งานทำ โดยน้องสาวเรียนจบจากสาขาสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และเริ่มทำงานที่บริษัทนี้มาประมาณ 1 ปีก่อนจะเกิดเหตุขึ้น ครอบครัวตนนั้นมีพี่น้อง 4 คน น้องสาวผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนที่ 2 ปกติแล้วเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงอัธยาศัยดี มีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น ขณะนี้ทางพ่อแม่ทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่สามารถทำใจได้ อยากจะฝากไปถึงบริษัทให้มีระบบรักษาความปลอดภัยมากกว่านี้เพราะเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง อีกทั้งในจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่อันตราย ก็ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญประจำควบคุมกำกับดูแลเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีก ส่วนของการเยียวยายังไม่ได้รับการติดต่อจากบริษัท ซึ่งตอนนี้ขอนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดทรัพย์เกษตร ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

 

เมื่อเวลา 13.40 น. นายปริโสทัต ปุณณภุม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านทรัพยากรบุคคล บริษัทซีพีเอฟ จำกัด มหาชน เดินทางมาพบกับญาติผู้เสียชีวิตที่สถาบันนิติเวช และเปิดเผยว่า บริษัทขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียชีวิต ในส่วนการเยียวยา ผู้เสียชีวิต เราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเมื่อเช้าที่ผ่านมามีทางญาติของผู้เสียชีวิตเข้าไปเชิญดวงวิญญาณที่บ่อบำบัดน้ำเสีย ในการพาผู้เสียชีวิตกลับบ้าน

 

สำหรับผู้เสียชีวิต ทั้ง 4 รายที่เป็นพนักงานของบริษัท ประกอบด้วย 1.นายชาญชัย จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดทองธรรมชาติ อ.เหลมงอบ จ.ตราด 2.นายพรศักดิ์ จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก ต.บ้านหนองแดง จ.ชัยภูมิ 3.นายชาตรี นำศพไว้ที่บ้านพัก จ.สกลนคร 4.น.ส.ลักษ์ชนก จะนำไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดทรัพย์เกษตร ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และ 5.น.ส.ปัณฐิกา นำศพไปตั้งไว้ที่วัดเมืองกาย ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยนำศพไปขึ้นเครื่องบิน โดยผู้บริหารบริษัทจะเป็น เจ้าภาพให้ตลอด และมอบเงินช่วยเหลือให้รายละ 3 ล้านบาท ส่วนเรื่องการศึกษาของบุตรจะดูแลให้ทุนจนจบปริญญาตรี

 

เมื่อสอบถามว่าพื้นที่ดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ นายปริโสทัตกล่าวว่า ไม่มี แต่ก่อนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมดูแลตลอดการดูงาน โดยวันเกิดเหตุนิสิตมาดูขั้นตอนการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งบ่อจะปิดอยู่ตลอด มีผู้ยืนยันได้ และจุดดังกล่าวถูกห้ามเข้าอยู่แล้ว ยังไม่ทราบว่าเหตุใดจึงพานิสิตเข้าไปในบริเวณดังกล่าว

 

นายปริโสทัตกล่าวอีกว่า ส่วนในด้านมาตรฐานความปลอดภัยนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการค้นหาสาเหตุอุบัติภัย เพื่อจัดทำมาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุขึ้นซ้ำอีก และทบทวนระบบมาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของบริษัทให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น และมีการนัดประชุมคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมทั้งบริษัท ในต้นสัปดาห์หน้า

 

น.ส.นิสากร จึงเจริญธรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) นำโดยนายกัมปนาท รุ่งเรืองชัยศรี ผู้อำนวยการสำนักโรงงานอุตสากรรมรายสาขา 1 พร้อมทีมงานจากสำนักเทคโนโลยีความปลอดภัย และสำนักเทคโนโลยีน้ำและสิ่งแวดล้อมโรงงาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุแล้ว รวมทั้งอยู่ระหว่างออกคำสั่งให้โรงงานดังกล่าวหยุดประกอบกิจการตามมาตรา 39 (1) เฉพาะระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535

 

จากนั้นในวันที่ 26 มิ.ย.2560 กรอ. ได้เชิญนายกสมาคมวิศวกรสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวถึงสาเหตุจากกรณีที่เกิดขึ้น ข้อกฎหมาย และการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาและข้อพึงปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป

 

เมื่อเวลา 17.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดเมืองกาย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่า มีเพื่อนของพ่อประสิทธิ์ และคุณแม่จินตนา ตาสุวรรณ ของ น.ส.ปัณฐิกา หรือ “น้องหวาย” ทยอยกันเดินทางมาช่วยงานศพ โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพี นำพวงหรีดมาวางรอไว้ภายในศาลา 2 พร้อมแจ้งความจำนงว่าขอรับเป็นเจ้าภาพในการประกอบพิธีทางศาสนาทุกคืน และจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลทุกอย่างให้

 

ทั้งนี้กลุ่มเพื่อนสนิทจากโรงเรียนพระหฤทัย และมงฟอร์ตวิทยาลัย ทยอยกันเดินทางมารอศพของน้องหวายด้วยสีหน้าเศร้าโศก โดยระบุว่าเพิ่งโทรศัพท์คุยกันเมื่อต้นเดือนเพื่อนัดหมายพบกันที่เชียงใหม่ และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

 

ญาติน้องหวายกล่าวว่า คุณพ่อน้องหวายเป็นผู้จัดการไฟฟ้าฯ อ.ห้างฉัตร คุณแม่ทำงานอยู่ฝ่ายบริหารสัญญา ทีโอที จ.เชียงใหม่ โดยน้องหวายเป็นลูกสาวคนเดียว และก่อนเกิดเหตุคุณย่าเพิ่งเข้าผ่าตัดขาจากโรคเบาหวาน พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง ยังไม่มีใครกล้าแจ้งให้ทราบ

 

อย่างไรก็ตาม ศพน้องหวายจะมาถึงเชียงใหม่เวลาประมาณ 19.45 น. และจะมี พิธีสวดพระอภิธรรมคืนแรกเวลาประมาณ 21.00 น. ที่วัดเมืองกาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน