จากกรณีแม่ค้าร้องเรียนผ่านเพจดัง โวยนักการเมืองท้องถิ่นสมุทรสาครสุดกร่าง พังร้านไล่ทุบตี เอามีดไล่ฟัน พร้อมคลิปภาพเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยระบุ วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เธอขับรถมอเตอร์ไซด์กลับจากรับลูกจากโรงเรียน มีรถเก๋งสีดำ ขับรถตามหลังมาแบบกระชั้นชิดแล้วได้บีบแตรไล่มาตลอดทาง ก่อนเกิดเหตุทะเลาะวิาทกันขึ้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 11 ต.ค. น.ส.วาสนา ทีหัวช้าง อายุ 37 ปี แม่ค้าส้มตำ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุตนได้ประสานกับตำรวจหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้เข้าไปให้ปากคำ เพราะว่าบางครั้งตนติดขายของ บางครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ว่าง และล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้ประสานให้ตนไปให้ปากคำ ทีแรกก็จะไปแต่พอตำรวจบอกว่าจะเรียกคู่กรณีมาให้ปากคำพร้อมกัน ตนจึงไม่กล้าไปเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะยกพวกมารอรุมทำร้ายที่หน้าโรงพัก ส่วนเรื่องที่ว่าตนเอามีดไปไล่ฟันคู่กรณีนั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

“มีดเล่มนั้นเป็นมีดที่ฝ่ายคู่กรณีนำมาปาใส่ร้าน ซึ่งทุกวันนี้ก็อยู่กันอย่างหวาดกลัว การทำมาหากินออกไปขายของก็น้อยลง คือไปเปิดร้านขายของช้ากว่าเดิมแต่ต้องปิดร้านให้เร็วขึ้น เพราะกลัวความไม่ปลอดภัย สาเหตุที่มีเรื่องกันคิดว่าน่าจะมาจากความไม่พอใจที่เคยจ่ายเงินค่าดูแลพื้นที่ให้แก่ใครบางคนที่ทางคู่กรณีมีความใกล้ชิดอยู่นั้น ไม่ครบตามจำนวนที่เขาต้องการ ส่วนเรื่องที่ต้องออกมาร้องเรียนผ่านเพจดัง ไม่ใช่เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคม เนื่องจากพอทราบว่าตำรวจจะเรียกคู่กรณีไปให้ปากคำพร้อมกัน กลัวว่าคู่กรณีจะสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาเพื่อให้เป็นพยานกับทางคู่กรณี จนเรากลายเป็นคนผิดและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”น.ส.วาสนา ระบุ

ขณะที่ น.ส.เยล (นามสมมติ) อายุ 21 ปีคู่กรณี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าววันเดียวกันว่า ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นลูกสาวอบต.สุดกร่างนั้น เรียกได้ว่าเป็นหนังคนละม้วนกับที่ป้าเขาได้ให้สัมภาษณ์มา บ้านของตนกับร้านค้าหรือบ้านพักของคู่กรณีอยู่ในซอยเดียวกันและอยู่ตรงข้ามกันพอดี ทั้งนี้ในวันที่เกิดเหตุนั้นตนขับรถจะกลับบ้านพร้อมกับน้องชายวัย 17 ปี ช่วงที่กำลังจะเลี้ยวเข้าซอย ป้าได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาและเกือบจะชนกัน ตนจึงบีบแตรเตือนไป 2 ครั้ง แล้วก็ขับตามรถของป้ามา แต่น้องชายเห็นว่าป้าหันมาตะโกนด่าใส่ แต่ตนไม่ได้สนใจอะไรเพราะไม่อยากมีเรื่อง

“พวกหนูขอยืนยันว่า ไม่ได้ลงมือทำร้ายก่อน และไม่เคยคิดที่จะไปรุมทำร้ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น ส่วนที่ว่าพ่อของหนูเป็นอบต.แล้วกร่างนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พ่อของหนูไม่ได้ไปทำร้ายหรือทำลายข้าวของ พ่อกับแม่เพียงแค่จะออกมาห้ามปรามเท่านั้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้พ่อเสียหายและเครียดมาก ขณะที่ว่าสาเหตุของการทะเลาะจะมาจากเรื่องของการเรียกเก็บเงินค่าดูแลพื้นที่ๆ ป้าขายของอยู่นั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะพวกหนูไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับป้าเลย ส่วนที่ดินตรงนั้นก็เป็นที่วัด หนูไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งสิ้น ทั้งนี้หนูก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานในวันเกิดเหตุ และจะขอให้ปากคำกับตำรวจ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัว” น.ส.เยล เปิดใจ

ขณะที่ร.ต.อ.สมคิด บุญลือ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ผู้เสียหายได้มาลงบันทึกประจำวัน และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้มีการนัดผู้เสียหายและคู่กรณีมาตกลงเจรจากัน แต่ผู้เสียหายไม่ยอมเข้ามาให้ปากคำโดยได้ขอเลื่อนเป็นอีกวันหนึ่ง พอถึงวันนัดผู้เสียหายก็ไม่มาตามนัดอีก จึงได้โทรสอบถามทราบว่าแฟนผู้เสียหายกำลังเจรจากับคู่กรณีเอง แล้ววันหลังจะเข้ามาให้สอบปากคำ สุดท้ายจนทุกวันนี้ก็ไม่ยอมเข้ามาให้ปากคำ ถ้ายังไม่มาจะออกหมายเรียกต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน