ณโรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมือง เคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซ็ตส์ สหรัฐอเมริกา

07

เช้าวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2470 เจ้านายพระองค์เล็กแห่งราชสกุลมหิดลประสูติ ณ ดินแดนแห่งนี้ โดยที่คงไม่มีใครคาดคิดว่า วันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า จะทรงเติบใหญ่เป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง และทรงเป็นที่รู้จักของชาวโลก ในพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของประเทศไทย

เหตุที่พระราชสมภพในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสมเด็จพระบรมราชชนก และสมเด็จพระบรมราชชนนีกำลังทรงศึกษาอยู่ที่นั่น จึงนับว่าเป็นมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกที่ทรงพระราชสมภพที่สหรัฐอเมริกา

หลังจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 บริเวณจัตุรัสเล็กๆ ในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตามรายงานของ เกรเทล คอฟฟ์แมน แห่งซีเอสมอนิเตอร์ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมว่า ช่วงเช้าตรู่ผู้คนมารวมตัวเพื่อไว้อาลัย ณ “คิงภูมิพลอดุลยเดชสแควร์” เพื่อวางดอกไม้สักการะพระองค์ บางรายอยู่ในสภาพเปื้อนน้ำตา คุกเข่าลงด้านหน้าแท่นหินอ่อนสำหรับประดิษฐานแผ่นจารึกข้อความตราสัญลักษณ์ประจำรัชกาลที่ 9 ขณะที่ช่วงบ่ายผู้คนเพิ่มจำนวนมากขึ้นหลายร้อยหลายพันคนจนล้นออกไปยังถนน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระโอรสพระองค์ที่สองในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในเวลาต่อมา) และหม่อมสังวาลย์ มหิดล พระนามแรกประสูติปรากฏในสูติบัตรว่า “เบบี สงขลา” ต่อมาได้รับพระราชทานนามว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช มีพระเชษฐภคินี และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลฯ พระอัฐมรามาธิบดินทร

สมเด็จพระบรมราชชนกเสด็จทิวงคต เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2472 ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนม พรรษาไม่เต็มสองพรรษา จากนั้นได้ประทับ ณ วังสระปทุม พร้อมด้วยสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

พระองค์ทรงเริ่มการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนมาแตร์เดอี ในขณะนั้นสถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้ดีนัก ในปีพ.ศ.2475 มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นประชาธิปไตย พระบรมวงศานุวงศ์ส่วนใหญ่ต่างได้รับผลกระทบ จำต้องเสด็จออกไปประทับยังต่างประเทศ

สมเด็จพระบรมราชชนนีทรงเล็งเห็นว่า แม้ว่าพระองค์เจ้าหญิงและชายจะมีพระชันษาน้อยมาก แต่ก็เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ สักวันหนึ่งอาจได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ประกอบกับพระโอรสพระองค์โตมีพระพลานามัยไม่ค่อยแข็งแรง และทรงมีทรัพย์สินส่วนพระองค์อยู่พอควร จึงทรงพาพระราชโอรสและพระธิดาทั้งสามเสด็จไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2476 เนื่องจากเคยเสด็จเยือนเป็นระยะเวลาสั้นๆ และประทับพระทัยในเสน่ห์ของประเทศนี้ ด้วยมีระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยม สามารถทรงอภิบาลพระโอรสและพระธิดาด้วยพระองค์เอง ทั้งยังมีนโยบายวางตัวเป็นกลางที่สุดในยุโรป ทำให้ทรงรอดพ้นความยากลำบากจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเวลาต่อมา

08

ทั้งสามพระองค์จึงทรงดำเนินพระชนม์ชีพในต่างแดนมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ โดยประทับ ณ พระตำหนักวิลล่าวัฒนา เมืองพุยยี ใกล้เมืองโลซาน ทุกพระองค์ทรงศึกษาภาษาฝรั่งเศสระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนเมียร์มองต์ และตอนเย็นมีครูพี่เลี้ยงถวายการสอนภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ และกิจกรรมต่างๆ เช่น งานช่างไม้ และกีฬา จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมที่โรงเรียนเอกอลนูแวล เดอ ลา ซืออิส โรงมองต์ ชีวิตเจ้านายน้อยๆ ทั้งสามพระองค์ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายเหมือนเด็กทั่วไป

กระทั่งปี พ.ศ.2477 พระชะตาของครอบครัวเจ้านายน้อยๆ ในราชสกุลมหิดลก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติ และรัฐบาลในเวลานั้นกราบบังคมทูลเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชย์ ทำให้พระอิสริยยศของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช เลื่อนขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้า น้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช

09

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 มาก ทั้งสามพระองค์ทรงร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ อย่างสนุกสนานมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และทรงดำเนินพระชนม์ชีพในโลซานแบบเด็กธรรมดา

10

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2481 พระองค์โดยเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 นิวัตสู่พระนครพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และสมเด็จพระบรมราชชนนี เนื่องจากทรงจากประเทศไทยไปเป็นเวลานาน และด้วยในเวลานั้น มีพระอิสริยยศเป็นเพียงพระอนุชา จึงไม่ต้องทรงระวังพระองค์มาก พสกนิกรจึงมักเห็นพระอนุชาทรงมีกล้องถ่ายรูปห้อยติดพระศอตลอด ทรงฉายพระรูปต่างๆ ด้วยความสนพระราชหฤทัย ทั้งสี่พระองค์ประทับที่ประเทศไทยนานประมาณสองเดือน จึงเสด็จกลับไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้ง

03-%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%9b%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%88%e0%b8%99
เมื่อทรงเจริญวัยถึงขั้นอุดมศึกษา ทั้งสามพระองค์ทรงเข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัย โลซาน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงศึกษาในสาขาวิชาเคมี ที่คณะวิทยาศาสตร์ และหลักสูตรด้านสังคมศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 ทรงศึกษาวิชาสำหรับกษัตริย์ หรือนิติศาสตร์ ส่วนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาที่ทรงถนัดที่สุด

06

ด้วยพื้นฐานนี้ ในเวลาต่อมาพระองค์จึงทรงสามารถพระราชทานคำแนะนำในด้านเทคโนโลยีของโครงการต่างๆ ในฐานะที่ทรงเชี่ยวชาญได้

เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงเปลี่ยนมาศึกษาในวิชาเกี่ยวกับการปกครอง คือนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ อักษรศาสตร์ ฯลฯ

05

ในปี พ.ศ.2488 หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง รัฐบาลไทยกราบทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 พระเชษฐภคินี และพระอนุชา พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี เสด็จนิวัตประเทศไทย

ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จสวรรคตอย่างไม่คาดฝัน ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 เวลา 9 นาฬิกาเศษ นำความเศร้าสลดใจยิ่งมายังชาวไทยทั้งปวง พระบรมวงศานุวงศ์ และฝ่ายรัฐบาลกราบทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพล อดุลยเดช ขึ้นสืบราชสันตติวงศ์
02

สมเด็จพระบรมราชชนนี มีรับสั่งถามพระโอรสอย่างเศร้าหมองว่า “รับไหมลูก” ต่อหน้าที่ประชุมที่เข้าเฝ้าฯ ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง

ภายหลังสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช มีรับสั่งสั้นๆ ว่า “รับ” ผู้ที่อยู่ ณ ที่นั้น กราบถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่อย่างพร้อมเพรียง

นับเป็นการเริ่มประวัติศาสตร์ยุวกษัตริย์ที่มีพระชนมพรรษา 19 พรรษา จนถึงวันที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก

A woman offers a prayer after laying flowers at King Bhumibol Adulyadej Square on October 13, 2016 in Cambridge, Massachusetts. Thailand's King Bhumibol Adulyadej, the world's longest-reigning monarch, has died at the age of 88, the palace announced on October 13, leaving a divided nation bereft of a rare figure of unity. / AFP PHOTO / Mary Schwalm

A woman offers a prayer after laying flowers at King Bhumibol Adulyadej Square on October 13, 2016 in Cambridge, Massachusetts.
Thailand’s King Bhumibol Adulyadej, the world’s longest-reigning monarch, has died at the age of 88, the palace announced on October 13, leaving a divided nation bereft of a rare figure of unity. / AFP PHOTO / Mary Schwalm

Flowers adorn a sign marking King Bhumibol Adulyadej Square on October 13, 2016 in Cambridge, Massachusetts. Thailand's King Bhumibol Adulyadej, the world's longest-reigning monarch, has died at the age of 88, the palace announced on October 13, leaving a divided nation bereft of a rare figure of unity. / AFP PHOTO / Mary Schwalm

Flowers adorn a sign marking King Bhumibol Adulyadej Square on October 13, 2016 in Cambridge, Massachusetts.
Thailand’s King Bhumibol Adulyadej, the world’s longest-reigning monarch, has died at the age of 88, the palace announced on October 13, leaving a divided nation bereft of a rare figure of unity. / AFP PHOTO / Mary Schwalm

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน