‘คมนาคม’ เผยผลสอบ สะพานกลับรถถนนพระราม 2 ถล่ม พบไร้จุดยึดรั้งระหว่างคาน ไม่ตรงกับรูปแบบการก่อสร้างที่ต้องมี พร้อมวางแผนปรับปรุง

วันที่ 25 ส.ค.65 นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถโครงการบูรณะและปรับปรุงสะพานทางหลวงหมายเลข 35 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันตก – นาโคก ตอน 2 จังหวัดสมุทรสาคร พังถล่ม ครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายต่างๆ อย่างเคร่งครัด

นายพิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถโครงการบูรณะและปรับปรุงสะพานทางหลวงหมายเลข 35 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันตก – นาโคก ตอน 2 จังหวัดสมุทรสาคร พังถล่ม เมื่อวันที่ 31 ก.ค.65 ครั้งที่ 3/2565 ได้ประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินงานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าเพิ่มเติม ดังนี้

1.นายเอนก ศิริพานิชกร ผู้แทนสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และประธานอนุกรรมการคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อสืบหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ รายงานสรุปผลการสำรวจทางวิศวกรรมกับโครงสร้างสะพาน ณ ปัจจุบัน ที่ได้รับความเสียหายด้วยระบบ Visual Inspection และ 3D Laser Scan พบว่า สภาพของโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายได้ถูกรื้อถอนออกหมดแล้ว โครงสร้างส่วนอื่นที่เหลือยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แต่ต้องสำรวจความแข็งแรงของโครงสร้างในเชิงลึกด้วยวิธีอื่นประกอบ เพื่อความปลอดภัยของการติดตั้งโครงสร้างใหม่โดยเฉพาะ โครงสร้างจุดต่อรับคาน Girder

2.ฝ่ายเลขานุการรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมทางหลวง (ทล.) ซึ่งมีวิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้างเป็นประธาน ได้เรียกสอบผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องในโครงการแล้ว รวมถึงลงพื้นที่สำรวจ และเก็บข้อมูลหลังเกิดเหตุ โดยจากการตรวจสอบพบว่า คานที่เกิดอุบัติเหตุไม่พบจุดยึดรั้งระหว่างคาน (I-Girder) และคานขวาง ซึ่งตามรูปแบบการก่อสร้างจะประกอบด้วย เหล็กเสริมด้านบนและด้านล่างตลอดแนวยาวของคานขวาง

และจากการตรวจสอบลักษณะความเสียหายบริเวณรอยต่อของโครงสร้างคานที่เกิดอุบัติเหตุคณะกรรมการได้มีข้อสังเกต ดังนี้ 1.สาเหตุของการร่วงหล่นคาดว่า เกิดจากการสูญเสียเหล็กเสริมในโครงสร้างคานขวางระหว่างการรื้อถอนพื้นสะพานเพื่อซ่อมแซมพื้นสะพานแบบ Full Depth ส่งผลให้เกิดแรงบิดในโครงสร้างของคานตัวริม เนื่องจากน้ำหนักเยื้องศูนย์อาจทำให้โครงสร้างสูญเสียเสถียรภาพและหลุดออกจากจุดรองรับ และ 2.ลักษณะของการเกิดเหตุคาดว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถบรรทุกน้ำมันบนสะพาน เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.47

นายพิศักดิ์ กล่าวอีกว่า 3.แผนการปรับปรุงสะพานกลับรถในเบื้องต้น ฝ่ายเลขานุการได้รายงานว่า ทล. มีแผนการดำเนินงานในเบื้องต้น โดยจะออกแบบให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2565 และจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พร้อมร่วมกันวางแผนการก่อสร้าง และแผนการจัดการจราจร เป็นต้น ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 คาดว่าจะดำเนินการหล่อคานสำเร็จรูป ติดตั้ง และก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยก่อนเปิดการจราจรบนสะพานกลับรถ ทล. จะทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุกของสะพานตามหลักวิศวกรรมร่วมกับ วสท. เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สะพานกลับรถดังกล่าวมีความมั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรม

นายพิศักดิ์ กล่าวต่อว่า 4.สำหรับข้อร้องเรียนของประชาชนเรื่องจุดกลับรถในบริเวณดังกล่าว มีระยะทางไกลและก่อให้เกิดความไม่สะดวกนั้น นายอภิชาติ จันทรทรัพย์ รองอธิบดีกรมทางหลวง แจ้งว่า ทล. อยู่ระหว่างการพิจารณาจุดกลับรถชั่วคราวใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 2 สัปดาห์ โดยผลการพิจารณาจะแจ้งกระทรวงฯ ทราบต่อไป ทั้งนี้ ในการคัดเลือกจุดกลับรถใหม่หรือการดำเนินงานเพื่อบูรณะสะพานดังกล่าว รองปลัดกระทรวงคมนาคมได้กำชับให้ ทล. ดำเนินการตามหลักการทางวิศวกรรมด้วยความปลอดภัย และมีผลกระทบกับการเดินทางของประชาชนให้น้อยที่สุด

นายพิศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เร่งจัดทำข้อสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงพร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด เพื่อรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบโดยเร็วที่สุด รวมถึงการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรการเยียวยาต่างๆ ขอให้ ทล. ดำเนินการตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการจัดทำแผนการดำเนินงานปรับปรุงสะพานกลับรถดังกล่าว โดยแยกเป็นกิจกรรมต่างๆ (แอคชั่นแพลน) ตามช่วงเวลาที่จะดำเนินการให้ละเอียด เพื่อนำเสนอให้ นายศักดิ์สยาม รับทราบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน