วันที่ 23 ก.พ. โลกออนไลน์ เผยภาพพิธีเก็บอัฐิ หลวงปู่สนธิ์ เขมิโย เกจิ 5 แผ่นดิน แห่งวัดอรัญญานาโพธิ์ บ้านนาโพธิ์ หมู่ 8 ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หลังจากที่ท่านได้ละสังขารเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2560 และได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่สนธิ์ เขมิโย เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

 

สำหรับ หลวงปู่สนธิ์ มีความเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมอันเข้มขลัง เป็นลูกศิษย์สืบสายธรรมจากหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน วัดท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม อดีตพระเกจิสองฝั่งโขงที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ

มีนามเดิมว่า สนธิ์ โคตะบิน เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 เม.ย.2453 ที่บ้านนาโพธิ์ ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

เมื่อครั้งอายุ 18 ปี ขณะนอนตะแคงในท่าพนมมือสองข้างหนุนศีรษะ ผู้เฒ่าผู้แก่ทักว่าจะไม่ได้ครองเรือนเช่นคนทั่วไป แต่จะได้สืบทอดพระพุทธศาสนาตลอดชีวิต อายุ 20 ปี ญาติถึงแก่กรรม บิดาจึงให้บวชหน้าไฟและอุปสมบทในคราวเดียวกัน ที่วัดศรีชมชื่น ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม โดยมีหลวงพ่อแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเกศ เป็นพระกรรมวาจา และมีหลวงพ่อเกิด เป็นพระกรรมวาจาจารย์

จากนั้นเดินธุดงค์ไปจำพรรษาที่ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน นาน 8 พรรษา

ช่วงที่จำพรรษาอยู่ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน ปวารณาฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระเกจิชื่อดังผู้สร้างพระพุทธบาทบัวบกในยุคนั้น ก่อนที่จะเดินธุดงค์ไปจำพรรษาที่วัดพระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย ตามลำดับ ก่อนข้ามแม่น้ำโขงไปที่แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นาน 2 พรรษา และธุดงค์ไปภูเขาควายอีก 4 พรรษา นั่งปฏิบัติธรรมท่ามกลางสัตว์ป่าดุร้าย เช่น หมี เสือโคร่ง








Advertisement

จากนั้นธุดงค์ต่อไปในภาคเหนือของไทย 7 จังหวัด และภาคกลางอีก 7 จังหวัด

จนมาถึง จ.นครราชสีมา และกลับมายังบ้านเกิด เพื่อโปรดบิดา-มารดา และญาติพี่น้อง หลังจากนั้นเดินทางไปสร้างวัดและจำพรรษาที่บ้านเปงจาน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย

กระทั่งทราบข่าวบิดาป่วย จึงเดินทางกลับมายังบ้านนาโพธิ์ เพื่อดูแลอาการ และได้สร้างวัดอรัญญานาโพธิ์ ในปี พ.ศ.2509 อยู่จำพรรษาจนถึงปัจจุบัน

เป็นพระที่มีความสมถะ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเวลาเดินธุดงค์จะไม่มีทรัพย์สินมีค่าติดตัว ไม่สวมรองเท้า และบิณฑบาตก็รับแต่พอฉันในแต่ละมื้อเท่านั้นไม่เก็บสิ่งของมีค่า

ยึดมั่นในพระธรรมวินัย จะคอยอบรมลูกศิษย์อย่าประมาทในศีล มักน้อยสันโดษ เป็นอยู่ง่ายๆ กินแต่น้อย ไม่สะสมทรัพย์สิ่งของ จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา

นอกจากเป็นผู้ชำนาญการด้านพระปริยัติและวิปัสสนากัมมัฏฐาน ยังเป็นผู้ทรงวิทยาคมอันสูงส่งรูปหนึ่ง

ครั้งหนึ่งจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ที่พบเห็นหลวงปู่สนธิ์ กำลังออกบิณฑบาต เกิดฝนตก แต่ปรากฏว่าเม็ดฝนไม่ถูกตัวหลวงปู่ ทั้งที่หลวงปู่สนธิ์ก็ออกเดินบิณฑบาตไปตามปกติ แต่ฝนตกตามหลังไป แต่ไล่ไม่ทันตัวหลวงปู่ ชาวบ้านก็เลยเรียกขานว่า “ฝนไล่ไม่ทันหลวงปู่”

สร้างวัดอรัญญานาโพธิ์ เมื่อปี พ.ศ.2509 ยังสร้างโรงเรียนอีก 5 แห่ง และตึกอาพาธสงฆ์ที่ ร.พ.ศรีสงคราม สร้างศาลาการเปรียญวัดกูฏิอีกหลายแห่ง พร้อมตั้งมูลนิธิหลวงปู่สนธิ์สนับสนุนทุนเรียนดีแต่ยากจน

เมื่อวัยเข้าสู่ชรา จึงกลับจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง หลวงปู่อาพาธเป็นโรคเส้นเลือดในสมอง ก่อนนำตัวเข้ารักษาที่ ร.พ.ศรีสงคราม เมื่อเดือน พ.ย.2559 แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งต่อไปรักษาตัวที่ ร.พ.นครพนม จากนั้นจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น นาน 2 เดือน ก่อนกลับมารักษาตัวที่ ร.พ.ศรีสงคราม

กระทั่งละสังขารอย่างสงบ เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 5 ก.ย. สิริอายุ 108 ปี พรรษา 88 ท่ามกลางความเศร้าสลดของศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน