สสส. จัดนิทรรศการ “Home Coming พาใจกลับบ้าน” นวัตกรรมการเรียนรู้ผ่านงานศิลปะ 5 โซน ช่วยคนรุ่นใหม่-วัยทำงาน มูฟออนจากภาวะหมดไฟ-เครียด-ซึมเศร้า ลดปัญหาสุขภาพจิต
จากข้อมูล Thaihealth Watch จับตาทิศทางสุขภาพคนไทย ปี 2566 พบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ วัยทำงาน มีภาวะหมดไฟ (Burnout) สาเหตุส่วนหนึ่งจากการปรับสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่แบบลูกผสม (Hybrid) ทำให้เสียสมดุลชีวิตกับการทำงาน เนื่องจากขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เจอภาวะกดดันจากการทำงาน กลายเป็นความเครียดสะสม นำไปสู่ภาวะซึมเศร้า ที่สำคัญยังพบข้อความที่กล่าวถึงความเครียดจากการทำงานในสื่อโซเชียลมีเดีย ระหว่าง มี.ค. – ก.ย. 2565 ถึง 18,088 ข้อความ ในจำนวนนี้ ต้องการลาออกจากงาน 54% สะท้อนถึงการขาดวิธีการจัดการชีวิตและการทำงานที่สมดุล ตอกย้ำแนวโน้มปัญหาสุขภาพจิตใจของวัยทำงานที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. กล่าวว่า สสส. ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ได้เร่งรวบรวมองค์ความรู้ พัฒนาเป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบนิทรรศการ “Home Coming พาใจกลับบ้าน” เพื่อสร้างประสบการณ์และทักษะชีวิตให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน ได้ตระหนักถึงทางเลือกในการดูแลสุขภาวะด้านจิตใจ ผ่านงานศิลปะที่ออกแบบให้เชื่อมโยงกับความเป็นมนุษย์ (Humanbeing)
นายนันทวัฒน์ จรัสเรืองนิล Project Director Eyedropper Fill Co.,Ltd. กล่าวว่า 5 โซน ภายในงานที่อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส คือ
1. สำรวจอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง
2. ปล่อย ขยับร่างกายไปพร้อมๆ กับจิตใจ
3. กอด สัมผัสแสง เสียงของชิ้นงาน สร้างความมั่นคงในใจ
4. นอน เอนกาย มองแสงประกายน้ำ เพื่อความผ่อนคลาย
5. ฟัง เสียงที่อยู่รอบตัว คลายความโดดเดี่ยว เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมให้ได้สำรวจจิตใจตนเองไปด้วยกัน
และโซนสุดท้าย ที่อยากจะให้ทุกคน เดินไปถึง คือโซน ที่ ห้องสะท้อนอารมณ์ เป็นห้องที่สะท้อนอารมณ์ทุกอย่างจากตัวเองไปสู่สังคม และเป็นห้องที่มี 3 คำถาม ให้ตอบ คือ ขอบคุณตัวเองขอโทษตัวเอง และ ให้อภัยตัวเอง ในเรื่องอะไรก็ได้
นอกจากนี้ ภายในนิทรรศการมีการฉายสารคดี “Mentalverse จักรวาลใจ” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตกลุ่มคนที่ต่างวัย 5 คน 5 ภาวะซึมเศร้า สะท้อนให้เห็นทางออกของปัญหาด้านจิตใจที่มีผลกระทบมาจากครอบครัวและสังคม
น.ส.สุภาวดี หวังศิริจิตร ผู้เข้าร่วมงาน กล่าวว่า ก่อนที่จะข้าร่วมนิทรรศการนี้ ก็มีความรู้สึกเครียดจากงานมาก ๆ เจอเรื่องราวมากมาย และไม่มีเวลาให้กับตัวเอง จนกระทั่งมานิทรรศการพาใจกลับบ้าน ก็รู้สึกเหมือนได้ผ่อนคลายจากความเครียด โดยส่งที่ชอบที่สุด คือ ฟัง เป็นส่วนที่ทำให้เราได้นั่งฟังความคิดของตัวเอง ว่าที่จริงแล้วตัวเองต้องการอะไร มีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น ทำให้หลังจากที่กลับบ้านไป เราจะรู้ว่าจะต้องเข้าใจและขอบคุณตัวเองยังไงบ้าง
นิทรรศการพาใจกลับบ้าน จะจัดขึ้น 1-30 มิ.ย. 2566 เวลา 11.00 – 20.00 น. ที่บริเวณชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก กรุงเทพฯ