จากเหตุการณ์แฟนบอล “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดฉากตะลุมบอนกับแฟนคลับ “เจ้าท่า”การท่าเรือ เอฟซี จนมีผู้บาดเจ็บหลายคนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลชลประทาน จ.นนทบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจบเกมโตโยต้า ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง โดยเมืองทองเสมอกับการท่าเรือ 1-1 แต่รวมผลสองนัดเมืองทองชนะด้วยประตูรวม 3-2 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่ห้องประชุมบุญยะจินดา 4 สโมสรตำรวจ “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นบ.พรีเมียร์ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด หรือพีแอลที เพื่อหารือวางแผนการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกของประเทศไทย

พร้อมกันนี้นายกสมาคมบอลได้กล่าวถึงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างแฟนบอลเมืองทองและการท่าเรือว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นนับเป็นเรื่องน่าเสียใจที่มีเหตุการณ์แฟนบอลทำร้ายกันเมื่อวานนี้ ผมเชื่อว่าไม่ใครอยากให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารของทั้งสองสโมสร แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วเป็นหน้าที่ของสมาคมที่จะต้องเข้าไปดำเนินการ”

“เท่าที่ผมทราบตามขั้นตอนคือผู้ควบคุมการแข่งขันต้องรายงานเหตุการณ์ทั้งนอกสนาม ในสนาม ก่อนแข่งขัน และหลังแข่งขันให้คณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาทซึ่งมี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธานให้ได้รับทราบ โดยคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใครถูก ใครผิด เกิดขึ้นได้อย่าง และมีผลอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาวินัยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อันประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเมืองทอง เจ้าหน้าตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ตลอดจนพนักงานสอบสวนที่ได้ทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร และเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไรเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท”

“เรื่องการตรวจสอบผมได้รับรายงานว่าคณะกรรมการได้เริ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ย. เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามผมไม่ได้กดดันคณะกรรมการพิจารณาว่าจะต้องได้บทสรุปในเร็ววัน เพราะต้องการให้ได้หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่”

“ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาตามหน้าสื่อออนไลน์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้มีการสั่งตัดแต้มของเมืองทอง และการท่าเรือ หรือบางแห่งอ้างว่ามีบทลงโทษถึงขั้นประกาศลดชั้นนั้นเรื่องนี้ผมไม่เคยพูด ซึ่งการที่มีข่าวแบบนี้ออกมานั้นเป็นเรื่องเร็วเกินไปหรือไม่ เพราะขบวนการพิจารณายังไม่เริ่มการสอบสวนเลย รอให้ผู้ที่รับผิดชอบได้ดำเนินการตามขั้นตอนเสียก่อนจึงจะทราบว่าจะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยึดหลักพิจารณาตามระเบียบข้อบังคับสมาคมมาใช้ด้วย”

“ส่วนความสงสัยที่ว่าการสอบสวนเรื่องนี้จะได้ข้อเท็จจริงนำไปสู่ตัวผู้ก่อเหตุหรือไม่นั้นเรื่องนี้ผมไม่กังวล เนื่องจากท่านพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ท่านเป็นตำรวจที่เก่งเรื่องสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว เคยเป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นอกจากนี้พื้นที่ที่เกิดเหตุเคยเป็นท้องที่ท่านดูแลในอดีต ผมว่าโชคดีที่คณะกรรมการพิจารณาชุดนี้มีตำรวจอยู่ในทีมด้วย ข้อมูลหลักฐานในการสืบสวนของตำรวจท่านอำนวยน่าจะสามารถนำเอามาใช้เป็นประโยชน์ในการพิจารณาได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน