เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย อาคารพงษ์สุภี พล.ต.ท. อำนวย นิ่มมะโน ประธานคณะกรรมการพิจารณา วินัย มารยาทสมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อตัดสินบทลงโทษ กรณีแฟนบอลของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และการท่าเรือ เอฟซี ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในศึกฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ เอสซีจี รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.อำนวย เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องซ้ำซาก ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก โดยครั้งล่าสุดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมลีกที่มีการสะสมคะแนน เมื่อ 2 ปีก่อน จึงมีบทลงโทษให้ตัดแต้ม แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเพราะเกิดขึ้นในฟุตบอลถ้วยลีกคัพ ซึ่งไม่มีการเก็บคะแนน ดังนั้นจึงไม่มีการตัดแต้มเกิดขึ้น เช่นเดียวกับการปรับแพ้ เราเห็นว่าในเกมดังกล่าวเป็นการเล่นที่ขาวสะอาด ผู้เล่นทั้งสองฝ่าย รวมถึงผู้ตัดสิน ทำหน้าที่ได้อย่างดีไม่มีปัญหาใดๆ การลงโทษถึงขั้นปรับแพ้จึงไม่ยุติธรรมสำหรับนักเตะที่สู้เต็มที่ในสนาม เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการยั่วยุของแฟนบอลทั้งสองทีม การตีกันของแฟนบอล เราต้องลงโทษให้ถูกคน จึงสรุปได้ว่าจะไม่มีการตัดแต้ม หรือปรับแพ้สำหรับการท่าเรือ และเมืองทอง
พล.ต.ท. อำนวย เผยอีกว่า จากหลักฐานกล้องวงจรปิด คลิปวิดีโอต่างๆจะเห็นว่ามีการยั่วยุกันของแฟนบอลทั้งสองทีมตั้งแต่ในสนาม เมื่อจบเกมแม้จะมีการปล่อยให้แฟนท่าเรือออกจากนอกสนามไปก่อน แต่บางส่วนก็ยังไม่กลับ ส่วนแฟนเมืองทองก็มีบางส่วนที่แอบออกมาก่อน จนมาถึงสถานที่ที่เกิดเรื่องตามที่เป็นข่าว จึงมีบทลงโทษดังนี้
1. ห้ามแฟนบอลทั้งสองทีมเข้าเชียร์ทีมของตัวเองไม่ว่าจะนัดเหย้าหรือเยือนทุกรายการ จนจบฤดูกาลนี้
2. ฤดูกาลหน้า 2017 หากเมืองทอง และท่าเรือโคจรมาพบกันห้ามแฟนบอลทั้งสองทีมเข้าเชียร์จนจบฤดูกาล
3.ตามข้อบังคับแล้วทั้งสองสโมสรต้องถูกปรับเงินไม่เกิน 1 แสนบาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันในศึฟุตบอลถ้วย จึงสามารถปรับเงินได้เพียง 1 ใน 3 ของบทลงโทษเท่านั้นคือ 33,333 บาท แต่เนื่องจากไม่ใช่ครั้งแรกที่แฟนบอลทั้งสองก่อเหตุเช่นนี้ คณะกรรมการฯมีสิทธิ์เพิ่มการลงโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ทำให้การท่าเรือจะโดนปรับเงิน 133,333 บาท
4. สำหรับเมืองทองในฐานะเจ้าบ้านผู้จัดการแข่งขัน จากที่เคยตรวจสอบแผนรักษาความปลอดภัยเห็นว่าเป็นแผนที่ดีมาก แต่เหตุการณ์ยังเกิดขึ้นแสดงว่ามีเจ้าบ้านบกพร่องต่อในการรักษาความปลอดภัย จึงลงโทษปรับเมืองทองเพิ่มเป็น 166,666 บาท และห้ามเมืองทอง ใช้สนามเอสซีจี สเตเดี้ยมเป็นสนามเหย้าในการแข่งขัน 5 นัด และต้องส่งแผนการรักษาความปลอดภัยที่กว่าเดิมมาให้คณะกรรมการพิจารณา หากไม่ผ่านก็ยังไม่มีสิทธิ์ใช้สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม
ด้าน “เสี่ยเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจาสโมสร เอสซีจี เมืองทอง เผยว่า ต้องขอบคุณคณะกรรมการฯ ที่แยกความผิดของสโมสรและแฟนบอลออกจากกัน สำหรับบทลงโทษของเมืองทองถือว่าหนักมากทั้งการปรับเงิน และแบนห้ามใช้สนามเอสซีจี สเตเดี้ยมถึง 5 นัด ซึ่งมันมีเรื่องของรายได้สโมสรเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงอยากให้คณะกรรมการฯรับการอุทธรณ์ของเมืองทองในเรื่องห้ามใช้เอสซีจี สเตเดี้ยมด้วย ส่วนระหว่างที่ถูกแบนเราได้ติดต่อสนามราชมังคลากีฬาสถานไว้รองรับแล้ว