ตามที่ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ออกมาแล้ว ซึ่งปีนี้จะมีเกมวันศุกร์เป็นครั้งแรกของฟุตบอลไทยลีก โดย “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ “ค้างคาวไฟ”สุโขทัย เอฟซี เป็นคู่แรกของซีซั่นนี้ที่มีคิวแข่งขันวันศุกร์ที่ 17 ก.พ.นั้น

 

ล่าสุด “เสี่ยเป้”รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า แนวความคิดดังกล่าวเชื่อว่าสมาคมฟุตบอลพยายามหาทางช่วยเหลือสโมสรที่ต้องไปเล่นฟุตบอลเอเชีย ทั้งเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก เอเอฟซี คัพ ให้มีเวลาเตรียมพร้อมในการลงเล่นมากขึ้น

 

“ถือเป็นความปราถนาดีของสมาคมแต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของสโมสรที่เคยเล่นเกมกลางสัปดาห์แล้วเห็นได้ชัดว่าจำนวนแฟนบอลเข้าสนามฝั่งเจ้าบ้านนั้นลดลงมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากสโมสรของเราอยู่ในเมืองเรื่องการเดินทางทั้งไปและกลับเป็นปัญหาสำคัญของแฟนบอลเนื่องจากสภาพการจราจรที่ติดขัด แม้ว่าจะมีการปรับเวลาให้เตะดึกขึ้นแต่ยังไม่เพิ่มจำนวนแฟนบอลเท่าไหร่นัก”

 

“แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องเสียหายที่ออกแนวทางความคิดใหม่ๆ เมืองทองฯ พร้อมให้ความร่วมมือแต่ทั้งนี้ต้องประเมินผลร่วมกันว่าสิ่งที่ทำนั้นได้ผลดีมากน้อยเพียงใดแล้วค่อยมาว่ากันว่าแนวความคิดดังกล่าวส่งผลดีกับสโมสร ฝ่ายจัดการแข่ง รวมถึงแฟนบอลหรือไม่”

 

“ที่ผ่านมาไทยลีกมีโปรแกรมแข่งค่อนข้างชุกมาก แต่ผมยังเห็นสมควรว่าฟุตบอลลีกจำเป็นต้องเตะช่วงสุดสัปดาห์ ส่วนเกมกลางสัปดาห์เหมือนปีที่ผ่านๆ มาผมว่าควรเป็นตารางแข่งขันของฟุตบอลถ้วยมากกว่า”

 

ขณะเดียวกันนายใหญ่ถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม กล่าวถึงการเสริมทัพนักเตะของทีมในฤดูกาลนี้ว่ายังไม่ปิดตลาดแน่นอนและพร้อมเปิดรับนักเตะฝีเท้าดีอยู่เสมอ

 

“เมืองทองเป็นทีมขนาดเล็กมีนักเกตะ 24-25 คน ยังมองว่าไม่เพียงพอสำหรับฟุตบอลที่ต้องลงเล่นหลายรายการ ดังนั้นเรายังมองหานักเตะอยู่เรื่อยๆ ไม่ปิดโอกาสที่ได้นักเตะใหม่ แต่นโยบายของสโมสรในการซื้อผู้เล่นนั้นต้องเป็นนักเตะที่ดีกว่าหรือเทียบเท่ากับคุณภาพของเราที่มีอยู่ในตอนนี้ หรือต้องเป็นดาวรุ่งที่พร้อมจะแจ้งเกิดขึ้นมาทดแทนตัวหลักในปัจจุบันได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน