การแข่งขันฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ของ มัวริซิโอ ซาร์รี่ ที่กำลังมีปัญหาฟอร์มการเล่นในลีก เปิดบ้านรับ มัลโม ทีมดังจากสวีเดน โดยนัดแรก เชลซี ตุนความได้เปรียบมาก่อน 2-1
อย่างไรก็ตาม แฟนบอลเชลซี เริ่มส่งเสียงโห่ใส่ ซาร์รี่ ตั้งแต่ต้นเกม หลังดร็อป จอร์จินโญ่ และ เอเดน อาร์ซาร์ เป็นตัวสำรอง และใช้งาน มัตเตโอ โควาซิซ ในแดนกลาง และ วางเอ็นโกโล กองเต ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกอีกครั้ง
Willian puts it on a plate for Giroud but that goal was all about N’golo Kante 👏 #CFC #CHLMAL https://t.co/HfvVZewzi5
— CFC-Blues (@CFCBlues_com) February 21, 2019
อย่างไรก็ตาม กองเต กลับเป็นตัวแปรในการยิงประตูแรกในเกมนี้ โดยฉกบอลกลางสนามก่อนลากเดี่ยวขึ้นมาแทงให้ วิลเลียน ที่วิ่งเติมริมเส้นขึ้นมา และผ่านให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ แปเผาขนขึ้นนำ 1-0 ในนาที 55 เป็นประตูที่ 6 ของ ในการเล่นยูโรปาลีก 7 เกม ก่อนที่นาที 74 รอสส์ บาร์กลีย์ จะยิงฟรีคิกสุดสวยเข้าไปให้เชลซี หนีเป็น 2-0 และ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย ดาวรุ่งของทีมจะยิงปิดกล่องในนาที 84 เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 รวมสองนัด เชลซี ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมด้วยประตูรวม 5-1
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
ส่วนผล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง คู่อื่นๆ
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น(เยอรมนี) 1-1 คราสโนดาร์(รัสเซีย)
รวม 2 นัด เสมอ 1-1 คราสโนดาร์ เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน
เบนฟิกา(โปรตุเกส) 0-0 กาลาตาซาราย(ตุรกี)
รวม 2 นัด เบนฟิกา เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1
ดินาโม เคียฟ(ยูเครน) 1-0 โอลิมเปียกอส(กรีซ)
รวม 2 นัด เคียฟ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2
เกงค์(เบลเยี่ยม) 1-4 สลาเวีย ปราก(เช็ก)
รวม 2 นัด สลาเวีย ปราก เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1
อินเตอร์ มิลาน(อิตาลี) 4-0 ราปิด เวียนนา(ออสเตรีย)
รวม 2 นัด อินเตอร์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-0
เรอัล เบติส(สเปน) 1-3 แรนส์(ฝรั่งเศส)
รวม 2 นัด แรนส์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-4
