ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่ 6 เมื่อ 23 มี.ค. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน “ช้างศึก”ทีมชาติไทย อันดับสุดท้ายของกลุ่มมี 1 คะแนน เปิดบ้านรับ “เศรษฐีน้ำมัน”ซาอุดีอาระเบีย จ่าฝูงที่มี 10 แต้ม โดยการพบกันในนัดแรกซาอุฯ เป็นฝ่ายเฉือนชนะ 1-0 จากจุดโทษในช่วงท้ายเกม


“ซิโก้”เกียรติศักด์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ใช้ระบบ 3-5-2 ใช้ ธีรศิลป์ แดงดา และ สิโรจน์ ฉัตรทอง เป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนสามเซ็นเตอร์ใช้ อดิศร พรหมรักษ์, ธนบูรณ์ เกศารัตน์ และ ประทุม ชูทอง วิงแบ๊กสองข้างเลือก ทริสตอง โด กับ ธีราทร บุญมาทัน แผงกลางใช้ ปกเกล้า อนันต์, จักรพันธ์ แก้วพรม, ชนาธิป สรงกระสินธ์


เริ่มเกมช้างศึกที่ต้องการ 3 คะแนนเพื่อโอกาสลุ้นเข้ารอบสุดท้ายเดินหน้าบุกเข้าใส่ทันทีแต่การต่อบอลในจังหวะสุดท้ายที่จะลุ้นประตูยังไม่แม่นยำ ขณะที่ซาอุดีอาระเบียไม่ผลีผลามพยายามเล่นเกมรัดกุมหาโอกาสสวนกลับเร็ว


ผ่านช่วง 20 นาทีแรกทีมชาติไทยยังเป็นฝ่ายที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ส่วนใหญ่เป็นการครองบอลกลางสนาม กระทั่งนาที 26 ซาอุฯ ที่ฉวยโอกาสโต้กลับ นาวาฟ อลาบิด วางบอลยาวให้ มูฮัมเหม็ด อัล ซาห์ลาวี หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ตุงตาข่ายทีมเยือนขึ้นนำ 1-0
นาที 41 ไทยเกือบได้ประตูตีเสมอจากการโต้กลับเร็ว ธีรศิลป์ จ่ายบอลให้ สิโรจน์ พาบอลเข้ากรอบเขตโทษก่อนโยกเข้าเท้าขวาข้างถนัดและตัดสินใจปั่นโค้งหวังยิงเสาสองบอลหลุดกรอบออกหลังอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่นาที 42 ธีราทร จะโดนใบเหลืองแรกของเกมจากการตัดฟาวล์ที่กลางสนาม และจบ 45 นาทีแรกไทยยังตามหลัง 0-1


เข้าสู่ครึ่งหลัง “ซิโก้”ปรับแผนดึงเอาปทุม ชูทองออก และใส่พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา และปรับไปเล่นกองหลัง 4 ตัว ซึ่งทำให้รูปเกมดีขึ้นตามลำดับ และมีโอกาสครองเกมมากยิ่งขึ้นแต่ยังไม่มีโอกาสเข้าทำ นาที 66 ช้างศึกดันเกมมามีลุ้นพีรพัฒน์ สอดขึ้นไปยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลปลิ้นออกหลังไป เกมยังขึ้นฝั่งซ้ายต่อเนื่อง พีรพัฒน์ คนเดิมได้โอกาสวิ่งทะลุขึ้นมายิงอีก แต่ยังห่างเป้าหมายไปเยอะ

นาที 84 ซาอุฯค่อยๆ ต่อบอลตอบโต้บ้าง จากเกมริมเส้น นาอีฟ ฮาซาซี่เปิดเข้ากลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เหยียดขาสกัดผิดเหลี่ยมบอลเข้าประตูตัวเอง เป็นประตูให้ซาอุฯนำห่างไปอีกเป็น 2-0

และนาทีสุดท้าย เกมต่อบอลสั้นของซาอุฯยังได้ผล ไทเซีย อัล จาสซัม ได้บอลจากกราบซ้ายเปิดให้ ซัลมาน มูวาชาร์ เข้าไปแปเน้นๆปิดกล่องให้ซาอุดิอาระเบียบุกมาย้ำแค้นทีมชาติไทย 3-0 เก็บ 3 แต้มมี 13 แต้ม นำโด่งเป็นจ่าฝูงต่อไป

และจากความพ่ายแพ้เกมนี้ส่งผลให้ผ่านการแข่งขัน 6 นัด ไทยมีแค่ 1 แต้มจากการเสมอออสเตรเลีย โอกาสสร้างปาฏิหารย์ลุ้นตั๋วฟุตบอลโลก 2018 เหลือเพียงริบหรี่

โดยนัดต่อไปไทยจะเดินทางไปเตะกับญี่ปุ่น ที่ไซตามะ สเตเดี้ยม 28 มี.ค. จากนั้น 13 มิ.ย. เฝ้าบ้านพบยูเออี 31 ส.ค. เฝ้าบ้านรับอิรัก และนัดสุดท้ายไปเยือนออสเตรเลีย 5 ก.ย.

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน อิรัก เสมอ ออสเตรเลีย 1-1 ส่วนสายเอ จีน ชนะเกาหลีใต้ 1-0 และ ซีเรีย ชนะ อุซเบกิสถาน 1-0

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน