ความคืบหน้าการสรรหาตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน “ช้างศึก”ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ หลังจากที่ “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ประกาศยุติบทบาทของตัวเอง โดยที่ผ่านมาสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้สัมภาษณ์โค้ชไปแล้วหลายรายแต่ยังไม่ตัดสินใจเลือกกุนซือทีมชาติไทยคนใหม่

 

ล่าสุดเมื่อ 21 เม.ย. มีโค้ชอีกสองรายเข้ามาเสนอตัวกับสมาคมฟุตบอลไทย นำโดย มาร์กอส ปาเกต้า ผู้ฝึกสอนชาวบราซิลที่เคยผ่านงานคุมเยาวชนทีมชาติบราซิลรุ่นอายุไม่เกิน 17 และ 20 ปี และยังเคยรับบทหัวหน้าผู้ฝึกสอนระดับสโมสรมาแล้วหลายทีม และ ดราแกน ทาลายิช โค้ชชาวโครเอเชียที่เคยทำงานกับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปี 2014-2015 มาพูดคุยด้วย

 

ทาลายิช กล่าวว่า “ผมคิดว่าผมเป็นคนแรกๆ ที่แสดงความสนใจในการทำงานกับทีมชาติไทย เพราะที่ผ่านมาอย่างที่ทราบดีว่าผมเคยทำงานในเมืองไทยมาแล้วกับเมืองทอง ยูไนเต็ด มีความคุ้นเคยกับประเทศไทยรวมถึงนักเตะเป็นอย่างดี ซึ่งตรงจุดนี้คิดว่าเป็นความได้เปรียบกว่าคนอื่น”

 

“ในการพูดคุยกันซึ่งใช้เวลานานพอสมควรส่วนใหญ่เป็นแนวทางการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยว่าจะทำอย่างไรที่จะยกระดับวงการฟุตบอลโดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมชาติไทยให้พัฒนาขึ้นไปอีก ส่วนเรื่องเงินที่สื่อมองว่าการเรียกร้องเงินเดือนน้อยกว่า 2 ล้านบาทจะเป็นข้อได้เปรียบที่จะทำให้ได้รับการเซ็นสัญญานั้นเราไม่ได้คุยกันเรื่องเงินเลย เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญผมเป็นโค้ชเราคุยกันเรื่องพัฒนาวงการฟุตบอลเป็นหลัก”

 

อดีตกุนซือเมืองทอง กล่าวอีกว่า การที่ตนไม่เคยมีประสบการณ์ในการพาทีมใดเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเลย ไม่ถือว่าตรงจุดนี้เป็นเรื่องเสียเปรียบโค้ชคนอื่น เพราะการที่โค้ชคนอื่นพาทีมเข้าฟุตบอลโลกนั่นเป็นเรื่องในอดีต ตนมองว่าตนอายุยังน้อยไม่แน่ว่าทีมชาติไทยอาจได้ไปฟุตบอลโลกในยุคของตนก็ได้

 

“สุดท้ายผมไม่ได้มั่นใจว่าจะได้ร่วมงานกับทีมชาติไทยหรือไม่เพราะสมาคมฟุตบอลไทยจะเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกใครเข้ามาทำงาน แต่ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้ร่วมงานกัน” กุนซือวัย 51 ปีกล่าวปิดท้าย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน