การแข่งขันฟุตบอลเฟรนช์ คัพ ฝรั่งเศส รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมแชมป์เก่า และรองจ่าฝูงลีก เอิง เปิดสนามปาร์ก เดส์ แพรงซ์ รับการมาเยือนของโมนาโก จ่าฝูงลีก เอิง

เกมนี้เจ้าถิ่นจัดทัพใหญ่ลงสนาม เอดินสัน คาวานี่, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, อังเคล ดิ มาเรีย ประสานงานกันในแนวรุก

ส่วนทีมเยือนตัดสินใจส่งแข้งสำรองลงเล่นยกชุด โดยมี วาแลร์ แชร์กแมง, อันเดรีย ราจจี้, มอร์แกน เด ซานช์ติส เป็นตัวเก๋าท่ามกลางเหล่านักเตะวัยรุ่น

ครึ่งแรกนาที 26 อังเคล ดิ มาเรีย ยิงไกลเด้งพื้นไปตรงตัว มอร์แกน เด ซานช์ติส ซึ่งรับบอลหลุดมือ เอดินสัน คาวานี่ จึงโฉบตัดหน้ามาจิ้มต่อให้ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ แตะโล่งๆเข้าไปง่ายดาย เปแอสเชนำ 1-0

นาที 31 อังเคล ดิ มาเรีย เปิดจากริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ เอดินสัน คาวานี่ ดีดลูกไขว้หลังเปลี่ยนทางเข้าประตูแบบเหนือชั้น จบครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำห่าง 2-0

ครึ่งหลังนาที 50 อังเคล ดิ มาเรีย เปิดจากฝั่งซ้ายพุ่งไปหน้าประตู บอลหลุดทะลุไปโดน ซาฟวาน เอ็มเบ ผู้เล่นโมนาโกสกัดเข้าประตูตัวเอง สกอร์จึงห่างเป็น 3-0

นาที 52 เปแอสเชนำห่าง 4-0 จากจังหวะแย่งบอลได้ในแดนโมนาโก แล้วจ่ายต่อให้ อังเดล ดิ มาเรีย หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่ดิ มาเรีย จะเปิดไปถึง แบลส มาตุยดี้ ซัดแบบเผาขนไม่มีพลาด

นาที 90 แมกซ์เวลล์ ซัดจากนอกกรอบเขตโทษแฉลบฝูงผู้เล่นที่ยืนกันเต็ม สุดท้ายบอลมากระทบเท้า แบลส มาตุยดี้ กลายเป็นแตะให้ มาร์กินญอส ซัดจ่อๆไม่เหลือซาก จบเกมเปแอสเชจึงชนะขาดลอย 5-0

เปแอสเชเข้าชิงชนะเลิศเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน โดยจะเจอกับอองเชร์ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ เมืองแซงต์-เดอนีส์ ชานกรุงปารีส วันที่ 27 พ.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน