กำลังจะเดินทางไปค้าแข้งในเจ ลีก ของญี่ปุ่นแล้วสำหรับ “ชนาคุง” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะวัย 24 ของไทย แข้งป้ายแดงของฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโล่
ผลงานในเมืองไทยของชนาธิป ได้สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับเยาวชนไทยจำนวนมาก นำมาซึ่งกิจกรรมสุดพิเศษ “Finding the Next Messi J” ที่สนามหญ้าเทียมสิงห์ฟุตบอล ปาร์ค เอสซีจี โดยให้ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ พร้อมกับ ก้องภพ สรงกระสินธ์ คุณพ่อมาร่วมสอนฟุตบอลให้กับเยาวชนทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 7–12 ปี ที่มีความมุ่งมั่นและความสามารถด้านฟุตบอล โดยได้รับการสนับสนุนจากฝั่ง เอสซีจี ที่หวังให้เป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนในเรื่องของความมุ่งมั่น และความพยายามต่อสู้กับอุปสรรค
โดยระหว่างงานดังกล่าว “ชนาธิป” เล่าว่าทั้งน้ำตาถึงช่วงชีวิตส่วนหนึ่งว่าเกือบจะไม่ได้เป็น “ชนาธิป” อย่างในทุกวันนี้ เพราะครอบครัวต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย แต่ก็ผ่านไปได้เพราะความมุ่งมั่น
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปี 2552 กระบะป้ายแดงไฮลักซ์ วีโก้ ที่ครอบครัวมีคันแรก และผ่อนมาได้ 3 ปีกว่า และอีก 5 เดือนข้างหน้าจะผ่อนหมดหายไปเฉยๆจากที่จอดรถที่สนามหลวง 2 อย่าหวังได้คืนเพราะกล้องวงจรปิดไม่มี
“ตาจุ้ง” หรือ คุณพ่อก้องภพ โทรกลับไปบอกที่บ้าน และปรับทุกข์ร้องไห้กับภรรยา
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ครอบครัวเสียหลักไปครั้งใหญ่ แต่พ่อก้องภพ จำเป็นต้องใช้รถเพราะต้องพาลูกชายไปแข่งขัน และฝึกซ้อม รวมถึงคัดตัวเพื่อเข้ามาเล่นฟุตบอลในกรุงเทพ จึงไปหยิบยืมเงินเป็นหนี้อีก 3 แสนกว่าบาทเพื่อซื้อรถอีกคัน

แต่ความที่ตัวเล็กกระจิ๋วเดียวทำให้ ชนาธิป ถูกปฏิเสธจากหลายโรงเรียน ที่คัดตัวติดก็ไม่ได้เรียน เพราะทางโรงเรียนยุบโครงการฟุตบอลออกจากเหตุผลทางเศรษฐกิจ พ่อที่กำลังท้อแท้จากปัญหามากมายถามลูกชายวา สู้ต่อไหมลูก “ชนาธิป”ตอบแค่ว่าคือ “สู้”

วันนี้พ่อก้องภพได้แต่ยิ้มกับความสำเร็จของลูกชาย รถที่หายไป ตอนนี้ลูกชายเล่นฟุตบอลได้รางวัลเป็นรถยนต์มาฟรีๆ 2 คัน มอเตอร์ไซค์อีก 3 คน และกลายเป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ไปค้าแข้งในเจลีก
อุปสรรคถ้าฟันฝ่าไปได้ เมสซี่เจ คนต่อไปก็คงมีมาอีกเรื่อยๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน