ความคืบหน้าขุนพล “ช้างศึก”ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดเตรียมสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยทีมชาติไทย จะประเดิมสนามนัดแรก กลุ่มบี พบ อินโดนีเซีย วันที่ 15 ส.ค. เวลา 15.00 น. ที่ชาห์ อลัม สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทางช่องโมเดิร์นไนน์
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ส.ค. “โค้ชโย่ง”วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนนำทัพนักเตะลงสนามฝึกซ้อมที่สนามปาดัง โบลา เปซัค มินเดฟ โดยใช้เวลาในการฝึกซ้อมราว 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเน้นการขึ้นเกมรุกพร้อมกับตั้งรับในกรณีโดนโต้กลับเร็ว
“โค้ชโย่ง” กล่าวว่า “วันนี้เป็นการซ้อมทั้งรุกและรับเนื่องจากเราต้องการเน้นผลในนัดแรก ซึ่งจากการซ้อมที่ผ่านมานักเตะทำได้ดีสามารถปรับตัวกับสภาพสนามและสภาพอากาศได้ดีไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่ม ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ”
“สำหรับเกมนัดแรกที่เราจะเปิดสนามเจออินโดนีเซีย ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเกมนัดแรกเป็นงานยากเสมอนอกจากนี้เรายังได้รับข้อมูลมาว่าอินโดนีเซียได้กองหน้ามาใหม่เพิ่มเติมจากฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ”
“แน่นอนว่าการแข่งขันในซีเกมส์นั้นไม่เหมือนกับทัวร์นาเมนต์อื่นๆ เพราะแข่งแบบแทบไม่มีวันพัก ดังนั้นเรื่องสกอร์จะยิงมากน้อยนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรามุ่งสมาธิไปที่ผลการแข่งขันมากกว่า ดังนั้นเราต้องเน้นไปที่การคว้า 3 แต้มแรกให้ได้มากกว่า”
“ส่วนการศึกษาคู่แข่งนั้นไม่เพียงแต่เราที่มีข้อมูลของคู่แข่ง ทีมอื่นๆ ย่อมมีข้อมูลของทีมชาติไทยเช่นกัน เรียกว่าซีเกมส์ครั้งนี้น่ากลัวทุกทีม แม้ว่าเราจะมาในฐานะแชมป์เก่าที่คู่แข่งให้ความเกรงใจแต่เราเองต้องให้เกียรติคู่แข่งด้วยเช่นเดียวกัน”
ทั้งนี้ความพร้อมของทีมชาติไทยไม่มีปัญหานักเตะตัวหลักได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม โดยในรายของ เจนรบ สำเภาดี กองหน้ากัปตันทีมหายจากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้วตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงมาเลเซีย แต่ยังต้องรอเช็กความฟิตว่าจะพร้อมช่วยทีมในนัดแรกได้หรือไม่ อย่างไรก็ดีคาดว่าไม่น่ามีปัญหาในการจัดทัพ
สำหรับผู้เล่น 11 คนแรกที่จะลงสนามพบอินโดนีเซีย ในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย นนท์ ม่วงงาม, รัตนากร ใหม่คามิ, ชินภัทร ลีเอาะ, ศฤงคาร พรหมสุภะ, สุริยา สิงห์มุ้ย, นพพล พลคำ, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, ศศลักษณ์ ไหประโคน, ชัยวัฒน์ บุราณ, เจนรบ สำเภาดี
ขณะเดียวกัน “โค้ชโย่ง” ให้สัมภาษณ์กับซันเดย์สตาร์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมาเลเซีย ถึงซีเกมส์ครั้งนี้ว่า “เรารู้ว่ามาเลเซียเป็นคู่แข่งสำคัญในรายการนี้และมีการเปลี่ยนแปลงทีมจากฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่เจอกับไทยหลายคน และชุดนี้ถือว่าดีกว่าชุดชิงแชมป์เอเชีย อย่างไรก็ดีเรามาที่นี่เพื่อชัยชนะและการป้องกันแชมป์ให้ได้อีกสมัย”
