ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2017 สุดสัปดาห์นี้มีโปรแกรมแข่งเพียงสนามเดียวในวันเสาร์ที่ 30 ก.ย. เวลา 18.00 น. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี ซึ่งเป็นเกมนัดตกค้างระหว่าง “พญาอินทรี”ไทยฮอนด้า เอฟซี รองบ๊วยที่กำลังหนีตายเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “สวาดแคท”นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ยังไม่แน่ว่าจะปลอดภัยจากการตกชั้น
ส่วนที่เหลือจะหยุดเกมลีกเพื่อลงเล่นฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2017 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
จากนั้นจะเบรกราว 2 สัปดาห์เพื่อหลีกทางให้ทีมชาติไทยลงสนามอุ่นเครื่องในช่วงฟีฟ่าเดย์ รวมถึงฟุตบอลถ้วยรายการอื่น โดยจะกลับมาลงสนามในเกมลีกอีกครั้งวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งจะเตะวันเดียวครบ 9 คู่
สำหรับความพร้อมศึกโตโยต้า ไทยลีก ระหว่างไทยฮอนด้า กับ นครราชสีมา เย็นวันนี้
เจ้าบ้านของ “โค้ชโดนัท”อัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์ พร้อมส่งตัวหลักอย่างวัชระ มหาวงษ์, ราฟาเอล ลิมา, ถวิล บุตรสมบัตร, สราวุฒิ คงเจริญ, สิทธิโชค กันหนู, มีเดช สรายุทธพิสัย, คมกริช คำโสกเชือก, ณัฐชานนท์ ใจถาวร, กุสตาโว เคลาดิโอ, เดชา สะอาดโฉม, เฆซุส ริคาร์โด, นพพล ผลอุดม, ศุภเสกข์ ไก่แก้ว รวมถึง บารมี ลิ้มวัฒนะ ส่วนในรายของมิชิทากะ อากิโมโตะ กองกลางชาวญี่ปุ่นจะพลาดช่วยทีมในเกมนี้เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบโควตาต้องโดนแบน 1 นัด
ฟากทีมเยือนของมิลอส โจซิค กุนซือชาวเซิร์บคงไม่ปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นมากนัก ดาวเตะอย่าง วีระ เกิดพุดซา, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, ชาคริต ระวันประโคน, เปาโล แรนเจล, วิกเตอร์ อิกโบเนโฟ, นฤพล อารมณ์สวะ, เดชา สร้างดี, อันโตนิโอ พีน่า, อธิบดี เอติรัตน์, ณัฐพงษ์ สายริยา, เมธี ทวีกุลกาญจน์, โดมินิก อาดิเยียห์, ศุภกิจ เนียมคง, บรรลือศักดิ์ ยอดยิ่งยงค์ คงมีชื่อต่อไป
ขณะที่ เอกณัฏฐ์ คงเกตุ กองหลังตัวหลักติดโทษแบนไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้
เดชา สร้างดี ชุดสีส้มแบ๊กของทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
ไทยฮอนด้าต้องการสามคะแนนเต็มในเกมนี้เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการคว้าชัยชนะยืดลมหายใจในลีกสูงสุด แม้จะไม่ใช่งานง่ายเพราะนครราชสีมาเองเป็นทีมที่ดีแม้ว่าผลงานช่วงหลังจะไม่ดีเท่าไหร่ แมตช์นี้เจ้าบ้านจะอาศัยความได้เปรียบที่เล่นในถิ่นเปิดหน้าบุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกมหวังเบิกสกอร์เร็วทำให้เล่นง่าย
ขณะที่ทีมเยือน ของเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานสโมสร รู้ตัวเองดีว่าอย่างน้อยต้องมีแต้มกลับไป ดังนั้น จะมารับแล้วรอโต้กลับเร็ว โดยใช้ความสามารถเฉพาะตัวในแดนหน้าทั้งโดมินิก อาดิเยียห์ ที่มีความคล่องตัวสูง กับ เปาโล แรนเจล กองหน้าร่างยักษ์ที่จบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม
รูปเกมน่าจะออกมาสูสีวัดกันที่ความเฉียบคม แต่เกมรับของทีมเยือนยังเอาแน่ไม่ได้ เพราะเมื่อก่อนเคยเล่นในบ้านน้อยทีมจะบุกไปเอาแต้มได้ แต่ปีนี้จากการที่กองหลังพลาดบ่อยครั้งทำให้เสียแต้มแบบไม่น่าเสีย ยิ่งต้องออกมาเล่นเกมเยือนด้วยแล้วโอกาสที่จะผิดพลาดซ้ำมีสูง ดังนั้น มองแล้วเจ้าบ้านมีภาษีดีกว่าหากจะมองถึงการเก็บชัยชนะ
สถานการณ์บนตารางคะแนน ทีมดังแห่งเมืองย่าโมรั้งอยู่อันดับ 14 มีผลงานลงสนาม 28 นัด ชนะ 7 เสมอ 10 แพ้ 11 เก็บแต้มไปได้ 31 คะแนน อยู่เหนือโซนตกชั้นอันดับ 16 อยู่ 8 คะแนน และเหลือเกมการแข่งขันอีก 6 นัด
ด้านมิลอส โจซิค กุนซือทีมนครราชสีมา กล่าวว่า”เรามีเกมในบ้าน 3 นัด และ ออกไปเยือนคู่แข่งอีก 3 นัด สำหรับในบ้านเราต้องคว้าชัยชนะให้ได้ทั้งหมด นั่นคือเป้าหมายแรก ส่วนเกมเยือนก็ต้องพยายามเก็บแต้มกลับออกมาให้ได้เป็นอย่างน้อย”
เทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (ภาพจากเว็บไซต์สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)
มิลอส โจซิค
“เรายังคงสามารถมองเป้าหมายถึงการขึ้นไปอยู่อันดับที่ดีกว่าเดิม (อันดับ 14) ได้ เพราะแต้มของเราห่างจากอันดับ 9 อยู่เพียง 7 คะแนน หากเราเก็บคะแนนได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้ มันจะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะไปถึงจุดนั้น”
“ที่ผ่านมาลูกทีมตอบโจทย์เรื่องวิธีการเล่นและแท็คติกได้ดี เพียงแต่ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆที่เกิดจากตัวเราเอง มันทำให้เสียประตูง่ายเกินไป เพราะเราเสียประตูจากการสร้างเกมรุกของคู่แข่งน้อยมาก จุดนี้คือสิ่งที่ผมพึ่งพอใจ หากเราสามารถแก้ไขจุดบกพร่องเพียงเล็กน้อยที่มีได้ ผมก็เชื่อมั่นว่าทีมสวาทแคทจะพุ่งขึ้นไปสู่พื้นที่กลางตารางได้อย่างแน่นอน”
สำหรับโปรแกรม 6 นัด ที่เหลือของ สวาทแคท มีดังนี้
30 ก.ย.60 พบ ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง เอฟซี (เยือน) เลื่อนโปรแกรมจากวันที่ 24 ก.ย.60
14 ต.ค.60 พบ การท่าเรือ เอฟซี (เยือน)
22 ต.ค.60 พบ พบ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด (เหย้า)
8 พ.ย.60 พบ เชียงราย ยูไนเต็ด (เยือน)
12 พ.ย.60 พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี (เหย้า)
18 พ.ย.60 พบ สุโขทัย เอฟซี (เหย้า)
