การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดสุดท้าย เมื่อวันที่ 10 ต.ค. เป็นการแข่งขันของกลุ่ม เอ ทีม”กังหันสีส้ม”เนเธอร์แลนด์ เปิดบ้านพบ สวีเดน
เกมนี้ เนเธอร์แลนด์ จำเป็นต้องชนะอย่างน้อย 7 ประตู เพื่อมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่าสวีเดน ได้ไปเล่นรอบเพลย์ออฟ
เริ่มเกม เนเธอร์แลนด์ เปิดเกมบุกใส่ทันที และได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกจุดโทษของอาร์เยน ร็อบเบน กัปตันทีมจอมเก๋า ยิงแบบหลอกล่อเข้าไปอย่างเหนือชั้น ในนาที 16
หลังจากนั้น ไรอัน บาเบิล พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนจ่ายกลับมาหน้าเขตโทษ อาร์เยน ร็อบเบน ง้างเท้ายิงไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ในนาที 40 ทำให้เนเธอร์แลนด์มีกำลังใจวิ่งไล่บอลกันทุกคน ก่อนจบครึ่งแรก เนเธอร์แลนด์ นำอยู่ 2-0
ครึ่งหลัง เนเธอร์แลนด์รวมพลังกันอีกเฮือก เป็นฝ่ายเดินหน้าบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับของสวีเดนได้ จบเกมเนเธอร์แลนด์ ชนะ สวีเดน 2-0 ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ ขณะที่สวีเดนแม้จะแพ้แตะได้ไปเพลย์ออฟ
ผลอีกคู่กลุ่มเดียวกัน ฝรั่งเศส เปิดบ้านเฉือนชนะ เบลารุส 2-1 เจ้าถิ่นได้จาก อองตวน กรีซมันน์ นาที 27 และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ นาที 33 ส่วนทีมเยือนได้จาก แอนตัน ซาโรกา นาที 44
อีกเกมกลุ่มนี้ ลักเซมเบิร์ก เสมอ บัลแกเรีย 1-1
สรุปกลุ่มนี้ ฝรั่งเศส เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม คว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่รัสเซีย เก็บได้ 23 แต้ม จาก 10 นัด ส่วนสวีเดน มี 19 แต้มเท่ากับเนเธอร์แลนด์ แต่ลูกได้เสียดีกว่า ได้ไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ส่วน เนเธอร์แลนด์ อดีตรองแชมป์โลก 2 สมัย ตกรอบอย่างเจ็บปวด
ทางด้าน กลุ่ม บี คู่สำคัญ ทีม”ฝอยทอง” โปรตุเกส เปิดบ้านแย่งแชมป์กลุ่มกับสวิตเซอร์แลนด์ ผลปรากฏว่า โปรตุเกส ชนะ 2-0 ได้จากการทำเข้าประตูตัวเองของ โยฮัน เฌอรู นาที 41 และ อังเดร ซิลวา นาที 57
คู่อื่น ลัตเวีย ชนะ อันดอร์รา 4-0 และ ฮังการี ชนะ หมู่เกาะแฟโร 1-0
กลุ่มนี้ โปรตุเกส เป็นแชมป์กลุ่ม ได้ตั๋วไปรัสเซียอย่างอัตโนมัติ เก็บได้ 27 แต้ม จาก 10 นัด เท่ากับ สวิตเซอร์แลนด์ แต่ลูกได้เสียดีกว่า ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ ต้องไปลุ้นต่อในรอบเพลย์ออฟ
ส่วน กลุ่ม เอช เบลเยียม ที่ได้ไปรอบสุดท้ายล่วงหน้าแล้ว เปิดบ้านถล่ม ไซปรัส 4-0 ส่วนกรีซเปิดบ้านชนะ ยิบรอลตา 4-0 และ เอสโตเนีย แพ้ บอสเนีย 1-2
สรุปกลุ่มนี้ เบลเยียม เป็นแชมป์กลุ่ม มี 28 แต้ม จาก 10 นัด ส่วน กรีซ เข้ามาเป็นอันดับ 2 มี 19 แต้ม ได้ไปเล่นเพลย์ออฟ
