หลังจากองค์กร “สภามวยเอเชีย” (ABC) หรือ Asian Boxing Council เปิดตัวเป็นทางการในงานประชุมใหญ่ สภามวยโลก WBC ที่ กรุงเทพ ในปี 1985 (พ.ศ.2528)
ถือกำเนิดเป็น “เส้นทางสายไหม” วงการมวยระดับโลก สาย WBC ที่ทอดยาว สู่เส้นทางสร้างสรรค์นักมวยไทยก้าวไกลสู่ระดับโลกจนเติบโตถึงปัจจุบัน ด้วยผลงานรังสรรของ 3 คนดังยุคนั้น คือ โฮเซ่ สุไลมาน ,”บิ๊กอึ่ง” สมภพ ศรีสมวงศ์ และ มร.เอ็ดเวิร์ด ตังคะราชา
จะขอพักเรื่องราวต่อเนื่อง และหยิบยก อดีตนักชกมวยสร้างของไทยท่านหนึ่ง ในยุคสมัยนั้น ผู้ทันเหตุการณ์มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อทบทวนความหลังที่เกิดขึ้น
ท่านผู้นั้นคือ “พงษ์พันธ์ ศ.พญาไท” หรือ “พี่โอ้” อดีตรองแชมเปี้ยนโลก ผู้เป็นหนึ่งในมวยสร้างของ บิ๊กอึ่ง ในครั้งนั้น ปัจจุบันอายุย่าง 64 ปี (เกิดปี พ.ศ.2500 พอดีจำง่ายดี) ยังคงใช้ชีวิตหลังเกษียณมีความเป็นอยู่ราบเรียบสุขสบายที่ อุบลราชธานีถิ่นเกิด
พงษ์พันธ์ ฟื้นความหลังที่เคยผูกผันกับ บิ๊กอึ่ง และ เอ็ดเวิร์ด ให้ฟังว่า เมื่อสมัยรุ่นๆราวสี่สิบปีก่อน ช่วงปี พ.ศ.2021-22 ตนเป็นพนักงานบริษัท โตโยต้า กรุงเทพยนต์ ในซอยนานา แถวย่านมักกะสัน ด้วยความที่ชื่นชอบมวยมาแต่เล็ก แม้ไม่เคยชกมวยไทยมาก่อนเลย ทว่าด้วยความที่ใกล้ๆกัน มีค่ายมวย “ศ.พญาไท” ของ จ.ส.อ.สุธน เที่ยงสาย ยศในขณะนั้น เป็นหัวหน้าค่าย
ด้วยกระแสยุคของ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ กำลังโด่งดัง ยามว่างจากงานตนจึงไปสมัครหัดชกมวยสากลอาชีพ จนส่อแววดี ขึ้นเวทีมีผลงานติดอันดับสูงของ เวทีมวยลุมพินี-ราชดำเนิน ในยุคนั้น
หลังทำฟอร์มดีเป็นดาวรุ่งชนะมาตลอด ราวปี 2524ได้ชกบ่อยครั้งในรายการศึกนวมทอง ของ บุญส่ง กิจกล่ำศวร กระทั่งมีชื่อขึ้นติดท็อปชาร์จอันดับสูง 2 เวทีมาตรฐาน จู่ๆวันหนึ่ง นายบุญส่ง โปรโมเตอร์ใหญ่ ก็มาบอกที่ค่ายว่า “คุณผู้ชาย” หรือ บิ๊กอึ่ง ซึ่งเป็นนายสนามมวยเวทีช่อง 7 สี อยากได้มวยดีมีอนาคต
“กูคุยกับพี่อึ่ง เขาอยากจะได้มวยสากลอาชีพดีๆ ไปไต่บัลลังก์โลก ในรุ่น ซูเปอร์แบนตัม” บุญส่ง บอก พงษ์พันธ์
หลังจากนั้นก็คว้าตัวเก็บเสื้อผ้า ย้ายไปอยู่ค่าย ส.จิตรลดา ในซอยแสนสุข ย่านคลองเตย พระราม 4 แต่นั้นมา พงษ์พันธ์ ศ.พญาไท จึงกลายเป็น มวยสร้างรุ่นแรกๆของบิ๊กอึ่ง ก่อนจะมี พเยาว์ พูนธรัตน์, สด จิตรลดา, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, นภา เกียรติวันชัย, สมาน ส.จาตุรงค์ ฯลฯ ทยอยตามกันมาในภายหลัง
“พี่โอ้” หรือ พงษ์พันธ์ ได้รับโอกาสผลักดัน จนได้สิทธิ์ต่อยตัดเชือก คัดผู้ชนะไปชิงแชมป์โลก ถึง 2 ครั้ง แต่น่าเสียดาย ด้วยชะตาวาสนา ครั้งแรก แพ้คะแนน วิชิต เมืองร้อยเอ็ด ในปี 1982 (พ.ศ.2525) ชวดสิทธิ์ชิงแชมป์โลก WBA กับ ลีโอ ครูซ Leo Cruz(ซึ่งต่อมา วิชิต ก็จบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ แผนชิงแชมป์โลกที่ ขอนแก่น วันที่ 21 เม.ย.ปีเดียวกัน จึงต้องล้มเลิกไปโดยปริยาย)
ผิดหวังครั้งแรก พงษ์พันธ์ ไปทำฟอร์มสวยชนะรวด 10 ไฟต์ กลับมาใหม่ได้เข้าอันดับโลก WBC ตัดเชือกกับ ฮวน “คิด” เมซ่า ที่ ราชดำเนิน ในปี 1983 (พ.ศ.2526)
พงษ์พันธ์ นักชกไทย โชว์ความ”ใหญ่โต” ได้เปรียบฝรั่งอเมริกัน อย่าง เมซ่า ฉายา “คิด” (เด็กๆ) ได้เพียงแค่ตอนแก้ผ้าชั่งน้ำหนักเท่านั้น เพราะพอถึงวันชก เมซ่า (ผู้เคยจั่วลมให้ สามารถ พยัคฆ์อรุณ โยกหลบ(รวดเดียว) 16 หมัดในเวลาต่อมา) กลับเป็นฝ่ายถล่ม พงษ์พันธ์จบเห่ไปเพียงแค่ยก 3 เท่านั้น ตกบันได้มวยสร้างกันป่นปี้
พงษ์พันธ์ มวยสร้างคนแรกของบิ๊กอึ่ง ได้ชื่อว่ามี “หัวใจใหญ่” อันเป็นที่โจษจัน ร่ำลือกันเป็นตำนานในแวดวงคนกีฬารุ่นอาวุโส ว่ากันว่า ถ้าเอ่ยเรื่อง “ความยาว” ของ”น้าเป็ด” ปริญญา สุขชิต กองเชียร์ทีมชาติไทยในยุคนั้น ขนาดนั่งถ่ายหนัก หัวยังจุ่มน้ำ ,ส่วน “น้าเป๋” สินชัย เพ็งแตงโม ช่างภาพ พิมพ์ไทย เปรียบได้กับ “หัวแมวนอนเขื่อง” แต่ถ้าเป็นอดีตรองแชมป์โลกชื่อ พงษ์พันธ์ แล้วละก็ ปานว่า ความมหึมาของแกนั้น พอๆกับ กระบอกไฟฉาย 9 ท่อน สมัยก่อนดีๆนี่เอง !!
ดังนั้นในวัย 64 พงษ์พันธ์ ศ.พญาไท จึงยังครองตัวเป็นโสดจนปัจจุบัน แม้จะเคยผ่านการมีภรรยามาแล้ว แต่ก็ถูกเลิกรา ซ้ำไม่มีบุตรหลาน เป็นพันธะติดตัวแต่อย่างใด กระนั้นยังคงเป็นหนุ่มใหญ่อารมณ์ดี เคยบวชเรียนมาแล้ว 4 ปี ก่อนจะสึกออกมาใช้ชีวิตเรียบง่าย ทุกครั้ง เมื่อมีใครถามถึงเรื่องที่ว่า พงษ์พันธ์ ก็มักหัวเราะลั่นอย่างอารมณ์ดี
เมื่อเอ่ยถึงความสัมพันธ์กับ คุณสมภพ และ มร.เอ็ดเวิร์ด อดีตรองแชมป์โลกชาวไทย ได้ใจความว่า “หลังจากทำให้คุณผู้ชายผิดหวัง สามเดือนต่อมา ท่านยังให้โอกาสผม ขึ้นชกอีก แต่ผมก็แพ้ในรายการเดียวกับที่ พเยาว์ พูนธรัตน์ เอาชนะ ราฟาเอล โอโรโน่ แย่งแชมป์โลก WBC ที่พัทยา (ปี 26)”
“จากนั้นไม่นาน ผมก็เลิกแขวนนวม ท่านก็ยังไม่ทอดทิ้งให้ผมอยู่เป็นสต๊าฟเทรนเนอร์ ช่วย อ.สุดใจ สัพพะเลข สอนมวยต่อไป จนผมเคยได้ รางวัล “ผู้ฝึกสอนอาชีพยอดเยี่ยม” และต่อมา ท่านยังฝากงานให้ ผมได้เป็นนักข่าว สายกีฬามวย สังกัดบางกอกโพสต์ ที่มี คุณเอ็ดเวิร์ด เป็น บก. นั่นเอง”
“จริงๆคุณชาย เป็นคนมีเพื่อนฝูงเยอะ และสนิทกับ คุณเอ็ดเวิร์ดมาก ทุกอาทิตย์จะมาคุยกันที่บ้าน ในซอยแสนสุข ซึ่งติดค่าย ส.จิตรลาดนั่นเอง ขลุกกันอยู่ตั้งแต่เช้าจนเย็น สนทนากันแต่เรื่องมวยโลก และเส้นทางที่จะผลักดันนักมวยไทย”
“แกช่วยกันเต็มที่ประสานงาน จน โฮเซ่ สุไลมาน ประธานใหญ่ WBC ยังทึ่งมากๆ เมื่อคราวที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมใหญ่ สภามวยโลก และในหลวงรัชกาลปัจจุบัน เมื่อครั้งพระองค์ท่านยังดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จมาเป็นประธานในพิธีเปิด”
“ตลอดเวลาที่ผมได้คลุกคลี รับใช้ทั้งสองท่าน (บิ๊กอึ่ง-เอ็ดเวิร์ด) ได้รู้และสัมผัสด้วยตัวเองว่า ทั้งคู่เป็นผู้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลักดัน ให้โอกาสนักมวยไทยมากมาย จนกลายเป็นแชมเปี้ยนโลกในเวลาต่อมา แต่คนส่วนใหญ่ทั่วไป มักไม่มีใครรู้ลึกถึงเบื้องหลัง และนึกถึงคุณงามความดีของท่านทั้งสองสักเท่าไหร่ เปรียบเสมือนปิดทองหลังพระนั่นเอง” พงษ์พันธ์ ศ.พญาไท กล่าว
เรื่องราวยังมีอีกมากมาย หากสนใจ ขอเชิญติดตาม ในลำดับต่อไป…
บทความกีฬา ข่าวสด : “สาวสังเวียน กับ สอดสร้อย
