“บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมสรุปการทำงานของ บริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส ที่ห้องประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560

ภายหลังประชุม“บิ๊กอ๊อด”เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เนื่องจากทางผู้บริหารของเอคโคโนเดินทางมาดูการทำงานของทีมงานผู้ฝึกสอนในบริษัทของเขา ที่ต้องดูแลในส่วนเยาวชนและทีมชาติชุดต่างๆของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เปิดใช้อย่างเป็นทางการวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ โดยพิธีเปิด นายจานนี่ อินฟันติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า จะเดินทางมาเปิดอย่างเป็นทางการ จึงจำเป็นต้องมีแผนการทำงานเป็นแบบแผน เพราะว่างานหลักแท้จริงของเอคโคโน่ คือการวางรากฐานฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งจะต้องทำแผนมาเสนอ เพื่อให้สมาคมฯอนุมัติ และทำงานร่วมกันต่อไป” ประมุขลูกหนังไทยกล่าว

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า หลังจากเอคโคโน่เข้ามาทำงานได้ 7 เดือนกว่าๆ งานหลักๆของเอคโคโน ที่ทำตอนนี้คือการเตรียมทีมชาติชุดต่างๆ ทั้ง 14, 16, 18 และ 21 ปี แต่งานที่ต้องทำจริงๆ คือการวางรากฐานระบบเยาวชนนั้นยังไม่ได้เริ่ม เพราะว่าสมาคมยังไม่มีศูนย์ฝึกให้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นการจะตัดสินผลงานของเขาตอนนี้ยังถือว่าเร็วเกินไป

“สิ่งที่เห็นจากการเปลี่ยนแปลงในทีมชาติทุกชุดคือเด็กๆมีการเล่นที่พัฒนามากขึ้น ผลการแข่งขันก็น่าพอใจ จากการเจอกับทีมแกร่งๆ ระดับเอเชียที่แพ้เละเทะมาตลอด ก็ดีขึ้นมาก ผมเชื่อว่าถ้าหากมีการวางแผน ดำเนินงานที่ดี อนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างแน่นอน”

พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวถึงการต่อสัญญามิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ ว่า ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างเจรจาพูดคุยกันอยู่ ซึ่งราเยวัชยังไม่กลับมาจากต่างประเทศ สิ่งที่คุยกันตอนนี้เป็นเรื่องของวิธีการ แนวทาง และรูปแบบการทำทีม ซึ่งจะต้องตกลงกันได้ทั้งสองฝ่าย เพราะการทำทีมชาติต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราจะอยู่ตรงจุดไหน ซึ่งการทำงานของโค้ชเองก็เป็นมืออาชีพ มีการวางแผนงานเอาไว้หลายอย่าง โดยเฉพาะการจะนำทีมชาติไทยไปเตะกับชาติที่ได้ไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้งหลังการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก

ส่วนกรณีที่“บิ๊กเสือ”นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ไม่สนับสนุนให้ใช้ทีมชาติชุดเล็ก เข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ หรือฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนนั้น “บิ๊กอ๊อด” กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดของ“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมฟุตบอล ซึ่งมองว่านี่เป็นรูปแบบที่ประเทศชั้นนำของวงการฟุตบอล เขาทำกัน ดูอย่างออสเตรเลีย มาเตะฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับโซนเอเชีย และขอมาอยู่ในโซนอาเซียน แต่เขาไม่ส่งทีมเตะซูซูกิ คัพ เพราะเขามองอะไรที่ไกลกว่านั้นออกไปแล้ว ดังนั้นแนวคิดของโค้ชเฮงนั้นตนเองสนับสนุนเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน