นายวริทธิ์ นามวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มปฏิบัติการเพื่อความเป็นเลิศ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี ในฐานะกรรมการบริหารทีมฟุตบอล PTTRY กล่าวว่า พีทีทีจีซี ได้จัดพิธีปิดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน PTT Rayong Youth League 2017 ที่ สนามพีทีทีจีซี สำนักงานจังหวัดระยอง ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการนักฟุตบอลน้อย เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ และ สโมสรฟุตบอลพีทีที ระยอง เป็นการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 9 คน รุ่นอายุ 8 ปี 10 ปี และ 12 ปี จำนวนรุ่นละ 8 ทีม จัดการแข่งขันตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤศจิกายน 2560 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาฟุตบอลเยาวชนในจังหวัดระยอง โดยมีผู้บริหาร ผู้นำชุมชน และประชาชนในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ร่วมในงานอย่างคับคั่ง
สำหรับการแข่งขันแบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี, 10 ปี และ 12 ปี และ 8 อะคาเดมี่ เข้าร่วมได้แก่ อรวินอะคาเดมี, ตากสินระยอง, เนินพระอะคาเดมี, มาบตาพุดวายเอฟซี, เอ็น เอ ที ระยอง เอฟซี, เบญจรงค์ เอฟซี, ระยองฟุตบอลอะคาเดมี และหนองพะวา อะคาเดมี มีเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขัน ประมาณ 600 คน
สำหรับทีมเยาวชนที่ชนะเลิศในปีนี้ ได้แก่ ชนะเลิศ U8 ทีมเยาวชนตากสินระยอง เอฟซี , ชนะเลิศ U10 ทีมเยาวชนมาบตาพุด วายเอฟซี , ชนะเลิศ U12 ทีมอรวิน อะคาเดมี ซึ่งทีมที่ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมเหรียญและถ้วยรางวัลชนะเลิศ
“โครงการนักฟุตบอลน้อย เป็นโครงการที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 3 มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างพื้นฐานด้านกีฬาฟุตบอลแก่เยาวชนในจังหวัดระยอง สนับสนุนให้เยาวชนที่มีใจรักและชื่นชอบกีฬาฟุตบอลได้พัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้องจากผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์ และมีโอกาสลงแข่งขันฟุตบอลเพื่อพัฒนาตนเองและก้าวไปสู่การพัฒนาการเล่นฟุตบอลในระดับมืออาชีพต่อไป เพื่อสานฝันของเยาวชนให้เป็นจริง”
หนึ่งในเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่โครงการอะคาเดมี บายพาส เด็กชายกรวิชญ์ แหยมไทย นักเรียน ชั้น ป.6 โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง อายุ 12 ปี เล่าว่า เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อนุบาล 3 และเล่นมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน การเล่นฟุตบอลทำให้บายพาสมีสุขภาพแข็งแรงและหายป่วยจากโรคภูมิแพ้ที่เคยเป็น และยังช่วยฝึกให้มีสติและสมาธิ การได้รับเลือกเข้าสู่โครงการอะคาเดมี ทำให้บายพาสมีโอกาสฝึกซ้อมทุกวันๆละ 2 ครั้งเช้า-เย็น ได้เรียนรู้ทักษะและได้ลงแข่งในสนามมากขึ้น บายพาสเล่นตำแหน่งกองหน้าเพราะอยากยิงประตูเพื่อช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ กองหน้าจะต้องเร็ว ส่งบอลแม่นยำ มีทักษะดี เลี้ยงบอลให้ติดกับเท้า และการเล่นฟุตบอลให้เก่งขึ้นคือ จะต้องตั้งใจฝึกซ้อมและเล่นเวททุกวัน ซึ่งบาสพาสมีความฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพและติดทีมชาติ
ส่วน “เป๊ก” เด็กชายฉัตรมงคล หอมจันทร์ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนวัดบ้านฉาง อายุ 10 ปี บอกว่า ชอบเล่นฟุตบอลมากกว่ากีฬาอื่นๆ ฟุตบอลทำให้เจอเพื่อน ได้ประสบการณ์ ช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจว่าจะเล่นต่อไปเรื่อยๆ เป๊กบอกว่า การจะเล่นให้เก่งขึ้นต้องมุ่งมั่น ต้องซ้อมทุกวัน และการลงแข่งบ่อยทำให้รู้เทคนิคการเล่นของทีมอื่นๆ และสามารถนำไปใช้ในการเล่นของเราได้ ถึงแข่งแล้วแพ้ไม่เป็นไร
ขณะที่ “เจล” เด็กหญิงศิริญญา ใจตั้ง นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง อายุ 11 ปี เล่าว่า แม้จะเป็นผู้หญิงแต่ก็ชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อนผู้ชาย เจลเล่นร่วมกับเพื่อนๆ มาแล้ว 3 ปี พ่อแม่สนับสนุนให้เล่น ผู้หญิงผู้ชายไม่แตกต่างกัน เล่นฟุตบอลได้เหมือนกัน ความอึดความแข็งแรงอยู่ที่การฝึกซ้อม ทุกวันนี้เจลต้องวิ่งรอบสนามวันละ 5 รอบ ซ้อมบอลตอนเลิกเรียนทุกวันๆ ละ 3 ชั่วโมง การเล่นฟุตบอลช่วยให้มีสมาธิ ฝึกความอดทน และสร้างความสามัคคี เจลอยากเล่นเป็นกองหน้าเพราะได้ทำประตูให้ทีม โตขึ้นอยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติเหมือนนักกีฬาทีมชาติไทย ธนีกาญจน์ แดงดา โค้ชบอกว่าหากอยากเก่ง ให้ตั้งใจเล่น และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
PTT Rayong Youth League 2017 นับเป็นอีกโครงการที่เสริมสร้างศักยภาพด้านกีฬาฟุตบอล เน้นการฝึกสอนทักษะฟุตบอลเบื้องต้นให้กับเยาวชนอายุ 8-12 ปี จำนวน 150 คน โดยทีมผู้ฝึกสอนจาก พีทีที ระยอง อะคาเดมี ที่เวียนจัดการฝึกสอนตามสนามต่างๆ ของชุมชนในช่วงปิดเทอมในเดือนพฤษภาคมและตุลาคม 2560 และ การสร้างเครือข่ายอะคาเดมี่ กับครูพลศึกษาของโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดระยอง โดยการจัดอบรมผู้ฝึกสอนให้กับครูพลศึกษา ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – ธันวาคม 2560
ทั้งนี้ ในการดำเนินงานที่ผ่านมาโครงการฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากจังหวัด ชุมชน และผู้ปกครองและเยาวชนระยอง และสามารถฝึกฝนจนมีนักกีฬาเยาวชนระยองผ่านการคัดเลือกเข้าสู่โครงการอะคาเดมีของสโมสรฟุตบอลพีทีทีระยองแล้วจำนวน 4 ราย ซึ่งนักกีฬาจะได้รับทุนการศึกษาพร้อมที่พักฟรี และการฝึกซ้อมกับโค้ชมืออาชีพ อันจะเป็นก้าวแรกของการเดินตามเส้นทางนักเตะอาชีพต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของนักฟุตบอลน้อยเหล่านี้ เชื่อว่า ในอนาคตประเทศไทยจะมีนักฟุตบอลอาชีพทั้งหญิงและชาย ที่มีคุณภาพสานฝันไทยไปบอลโลกได้อย่างแท้จริง
