ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คู่สุดท้าย ประจำวันเสาร์ที่ 18 พ.ย. “ผีแดง”แมนฯยู เปิดสนามโอลด์แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับ”สาลิกาดง”นิวคาสเซิล ของราฟาเอล เบนิเตซ
เกมนี้ แมนฯยู ได้ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส หายเจ็บกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบกว่า 2 เดือน ส่วนซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวเก๋าชาวสวีดิชที่บาดเจ็บมากกว่าครึ่งปี ก็ฟิตแล้ว มีชื่อเป็นตัวสำรองคู่กับมาร์กอส โรโฮ
สำหรับตัวจริงเกมนี้ โชเซ มูรินโญ กุนซือใหญ่ ส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงทำเกมรุกประสานงานกับโรเมลู ลูกากู อองโทนี มาร์ซิอัล, ฆวน มาตา
ด้านนิวคาสเซิล มี จอนโจ เชลวีย์ กองกลางชาวอังกฤษขับเคลื่อนเกม
เริ่มครึ่งแรก นิวคาสเซิลได้ประตูนำก่อน จากจังหวะสวนกลับเร็วมาทางด้านขวา เดออังเดร เยดลินเปิดเข้ามาในเขตโทษ เป็นจังหวะเดียวกับ วิกเตอร์ ลินเดอเลฟ กองหลังแมนฯยูเสียหลักลื่น ทำให้ดไวต์ เกย์ล ยิง บอลชนเสาเข้าประตู นิวคาสเซิลนำ 1-0 นาทีที่ 14
ดไวต์ เกย์ล ยิงให้นิวคาสเซิลนำ(AFP PHOTO / Oli SCARFF)
หลังเสียประตู แมนฯยูเร่งเครื่องบุกหนัก นาที่ 37 แมนฯยูตีเสมอได้ จากจังหวะที่ป็อกบาสับหลอกกองหลังนิวคาสเซิล แล้วเปิดไปที่เสาสอง มาร์ซิอัลขึ้นโขกเบียดเสา ไล่ตีเสมอ 1-1
มาร์ซิอัลโหม่งตีเสมอ(AFP PHOTO / Oli SCARFF)
นักเตะแมนฯยูได้ใจ ต่อบอลบุกสองข้าง ช่วงทดเจ็บ แอชลีย์ ยังเปิดบอลจากด้านซ้ายไปที่เสาสอง คริส สมอลลิ่งขึ้นโขกตุงตาข่าย แมนฯยูแซงนำ 2-1 จนหมดครึ่งแรก
สมอลลิ่งโขกให้แมนฯยูนำ( AFP PHOTO / Oli SCARFF)club/league/player publications. /
เกมครึ่งหลัง แมนฯยูยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ ก่อนจะได้ประตูที่สาม จาก ปอล ป็อกบา จากจังหวะที่แรชฟอร์ดโหม่งชงให้ยิงในกรอบเขตโทษ นาทีที่ 54
ปอลบา ยิง( REUTERS/Andrew Yates)
อิบราฮิโมวิชลงเป็นตัวสำรอง(Reuters/Carl Recine)
แมนฯยูทิ้งห่าง 3-1
จากนั้นนาทีที่ 77 แมนฯยูส่งซลาตัน อิบราฮิโมวิชลงเล่นแทนมาร์ซิอัล
อีก 2 นาทีต่อมา เชลวีย์ซัดไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลเฉี่ยวเสา
นาทีที่ 83 ลูกากู หลุดไปยิงในกรอบเขตโทษ ปิดท้ายให้แมนฯยู แซงชนะนิวคาสเซิล 4-1 เก็บ 3 แต้ม รั้งรองจ่าฝูงต่อไป เตะ 12 นัด มี 26 แต้ม ส่วนนิวคาสเซิลอยู่ที่ 11 มี 14 แต้ม
