เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 พ.ย. ที่ห้องเมต้า1 ชั้น2 ราชพฤกษ์คลับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยพล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศฯ เข้าร่วมงานแถลงข่าว ก่อนการแข่งขันฟุตบอล ช้าง เอฟเอคัพ 2017 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัย วันเสาร์ที่ 25 พ.ย. นี้ เวลา 19.00 น. โดยมีตัวแทนของทั้งสองทีม พร้อมผู้บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ในฐานะสปอนเซอร์หลักร่วมแถลงข่าว

 

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเกมนี้ว่า “การแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ เป็นการแข่งขันที่มีมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ถือเป็นการแข่งขันที่สำคัญ เพราะว่าทีมแชมป์ในการแข่งขันรายการนี้จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นฟุตบอลเอเอฟซีแชมเปี้ยนลีก รอบคัดเลือกรอบ 2 ในฤดูกาลหน้าด้วย ซึ่งทั้ง 2 ทีมที่เข้ามาในรอบชิงชนะเลิศล้วนเป็นทีมที่ดีและมีศักยภาพ ผมเชื่อว่าเกมนัดนี้จะเป็นเกมที่สนุกอย่างแน่นอน”

ด้าน นายธนพล วิระเทพสุภรณ์ รองประธานสโมสรเชียงราย กล่าวว่า ตอนนี้ทีมเหลือเพียงถ้วยเดียว ซึ่งต้องการคว้าแชมป์มาให้ได้ ดังนั้นจะต้องเล่นอย่างเต็มที่ เปรียบเสมือนเกมนี้เป็นแมตช์แห่งชีวิตของพวกเราทุกคน ส่วนสภาพทีมตอนนี้ก็มีความพร้อม โค้ชมีการโรเตชั่นนักเตะไว้เป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะดาวยิงอย่าง ฟิลิปเป้ อเซเวโด้ ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมนัดชิงโตโยต้า ลีกคัพ จะได้ลงสนามในเกมนี้อย่างแน่นอน ขาดเพียงแค่ อาทิตย์ ดาวสว่าง ที่ติดโทษแบนเท่านั้น


ขณะที่ นายวสพล แก้วผลึก ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนแบงค็อก กล่าวว่า เกมนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน ซึ่งตัวนายขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรทำทีมมาแล้ว 5 ปี ก็อยากที่จะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์นี้มาครองให้ได้ จริงอยู่ที่ว่าทีมเป็นทีมเกมรุก ทำประตูได้มากมายแต่เกมนี้คงจะต้องเน้นเกมรับให้มากขึ้น และฝากความหวังเอาไว้ที่การจบสกอร์ของเกมรุกที่พาทีมมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนสภาพทีมพร้อมเต็มร้อย และมีการศึกษาฟอร์มของคู่แข่งมาเป็นอย่างดี มีความมั่นใจมากว่าจะสามารถคว้าแชมป์ได้


สำหรับการแข่งขันฟุตบอล “ช้าง เอฟเอคัพ 2017” รอบชิงชนะเลิศ จะทำการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่องทรูสปอร์ต 2 และทรูสปอร์ตเอชดี 2 โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท พร้อมสิทธิในการเข้าแข่งขันฟุตบอล “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2018” ในรอบคัดเลือกรอบ 2 และยังเป็นตัวแทนในการแข่งขันฟุตบอล “ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ” ที่จะเจอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์โตโยต้า ไทยลีกในปีหน้า


สำหรับสถิติการพบกันของทั้งสองทีมใน 5 ฤดูกาลหลังสุด เจอกันมา 10 ครั้ง ผลัดกันแพ้-ชนะ คนละ 4 ครั้ง และเสมอกัน 2 ครั้ง

ส่วนการเจอกันในฤดูกาลนี้ นัดแรกที่บ้านของแบงค็อก ยูไนเต็ด เชียงรายเป็นฝ่ายบุกชนะ 2-0 ส่วนนัดที่สองที่บ้านของเชียงราย แบงค็อกเป็นฝ่ายบุกไปเอาคืนได้บ้าง 3-0

 

 

 

 


“นอกจากนี้ถ้วยการแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ ในฤดูกาลนี้ เป็นถ้วยใบใหม่ที่สมาคมฯเพิ่งสั่งทำขึ้นมา และทีมแชมป์ในปีนี้จะได้ถ้วยแชมป์ใบใหม่ไปครองเป็นทีมแรกอีกด้วยครับ ผมขออวยพรให้ทั้ง 2 ทีมประสบความสำเร็จในเกมวันที่ 25 พ.ย.นี้ ครับ”

โดยแชมป์รายการนี้จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท พร้อมถ้วยรางวัลใหม่ที่สมาคมฯสั่งทำขึ้นมาใหม่ และได้สิทธิ์เข้าไปเล่นฟุตบอล เอเอฟซีแชมป์เปี้ยนลีก 2018 รอบคัดเลือกรอบ 2

 

สำหรับทีมเชียงราย ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้เข้าชิงบอลถ้วย 2 รายการ ล่าสุดเพิ่งแพ้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 0-2 เมื่อวันพุธที่ 22 พ.ย. ได้เพียงรองแชมป์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน