เมื่อ 18 ม.ค. ที่รร.แมร์ริออต มาร์กีส์ ถนนสุขุมวิท “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมการแข่งขันฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ 2018 ระหว่าง “กว่างโซ้งมหาภัย”เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 กับ “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์โตโยต้า ไทยลีก 2017 โดยการแข่งขันจะมีขึ้นวันที่ 19 ม.ค. เวลา 19.00 น. ที่สนามศุภชลาศัย

“บิ๊กอ๊อด” กล่าวว่า ฟุตบอลรายการ “ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ 2018 หรือศึกแชมป์ชนแชมป์ ถือเป็นฟุตบอลนัดพิเศษ ที่จัดขึ้นทุกๆ ปี ระหว่างแชมป์โตโยต้า ไทยลีก พบกับ แชมป์ฟุตบอเอฟเอ คัพ โดยจะมีรูปแบบเดียวกับเอฟเอคอมมิวนิตี้ชิลด์ของอังกฤษ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าการแข่งขัน ฟุตบอลลีกอาชีพ ของประเทศไทยกำลังจะเริ่มขึ้น

“ฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ 2018 เป็นการพบกันระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์โตโยต้าไทยลีก พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ฟุตบอลถ้วยช้างเอฟเอคัพ โดยจะแข่งขันกันที่สนามศุภชลาศัย ในวันที่ 19 มกราคม 2561 เวลา 19.00 น. ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการจัดการแข่งขันธนาคารออมสิน, บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บ.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ บ.แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด”

“เกมระหว่างบุรีรัมย์ กับ สิงห์ เชียงรายสมาคมจะนำเทคโนโลยีวีเออาร์ (VAR) มาใช้เป็นครั้งแรก ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ในหลายๆ ประเทศได้นำมาใช้ไม่ว่าจะเป็นในออสเตรียเลีย, เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศแรกๆ ในภูมิภาคนี้ได้ทดลองใช้อยู่ แต่ก่อนที่เรานำมาใช้เราจะมีการทดลองหรือทดสอบความพร้อม เพราะไม่แน่ว่าฟีฟ่าอาจจะรับรองการใช้วีเออาร์ ในเร็วๆ นี้ ฉะนั้นทางเลือกหรือตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและเที่ยงธรรมมากที่สุด ในตอนนี้มีสองแนวทางคืออย่างแรกใช้เทคโนโลยีวีเออาร์ อย่างที่สองคือใช้ผู้ตัดสินที่ 5 และที่ 6 ยืนหลังเส้นประตู ทั้งสองอย่างนี้ทางเรายังไม่มั่นใจว่าจะเลือกวิธีไหน แต่เราเตรียมความพร้อมเมื่อวันนั้นมาถึง เราจะได้ตัดสินใจเลือกวิธีที่ดีที่สุด ฉะนั้นเกมนี้จะนำวีเออาร์มาทดลองใช้ ส่วนในอนาคตนั้นถ้าดีเราพร้อมพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าฟีฟ่าให้การรับรองเราจะนำมาใช้อย่างแน่นอน เพราะถ้าเราทำจะเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซี่ยนที่นำมาใช้ เราต้องการทำให้การแข่งขันนั้นบริสุทธิ์ ยุติธรรมทุกวิถีทาง”

“ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมต้องแข่งวันที่ 19 ม.ค. แทนกำหนดการแข่งขันเดิมวันที่ 2 ก.พ. สาเหตุแรกคือเชียงราย ยูไนเต็ด จะต้องลงเล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ รอบ 2 กับ บาหลี ยูไนเต็ด วันที่ 23 ม.ค. ซึ่งนักกีฬาจะต้องมีเวลาพักและเตรียมตัว หากเชียงรายทะลุเข้าไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2018 รอบเพลย์ ออฟ รอบ 3 จะต้องบุกไปเยือนเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ในวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไปที่จะต้องเดินทางกลับมาแล้วพัก 1 วัน และลงเล่นกับบุรีรัมย์ ตามกำหนดการเดิมวันที่ 2 ก.พ.”

นายทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีมสโมสรบุรีรัมย์ กล่าวว่า “นี่เป็นเกมที่สองในช่วงปรีซีซั่นของทีม นักเตะหลายคนยังอยู่ในช่วงเรียกความฟิต ส่วนเรื่องนักเตะบาดเจ็บตอนนี้มีเพียง ศศลักษณ์ ไหประโคน คนเดียวที่ยังไม่พร้อมลงเล่น ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา เกมนี้ถือเป็นแมตช์แห่งศักดิ์ศรีก่อนเปิดฤดูกาล ซึ่งเรามั่นใจจะว่าคว้าแชมป์ ทุกเกมที่บุรีรัมย์ลงเล่นเรามั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ และแชมป์รายการนี้ทีมบุรีรัมย์ขอจอง”

นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ ผู้จัดการทีมเชียงราย กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่เราได้ลงเล่นรายการนี้ ที่ผ่านมาทีมของเรามีผลงานที่ไม่ดีในช่วงปรีซีซั่น ซึ่งเรากำลังอยู่ในช่วงเรียกความพร้อมและความมั่นใจ มั่นใจว่าทุกอย่างจะลงตัวและดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเชียงรายเรายกระดับขึ้นจากทีมกลางตารางเป็นทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ได้อย่างเต็มตัวในฤดูกาลที่แล้ว และสำหรับฤดูกาลนี้เราลงเล่นรายการไหนต้องการคว้าแชมป์ด้วยเหมือนกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน