เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่สมกับที่แฟนบอลรอคอยสำหรับ “แข้งเทพ”ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ในศึกโตโยต้า ไทยลีก ซึ่งงาน นายขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรประกาศกร้าวกลางเวทีว่าปีนี้คือปีที่แบงค็อกจะมีการ “เปลี่ยนแปลง” ครั้งใหญ่

ริ่มตั้งแต่ตัวผู้เล่นบรรดาแข้งหลักเมื่อฤดูกาล 2017 อย่าง ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง, ภานุพงศ์ วงศ์ษา (แขวนสตั๊ด), ศิวรุต ผลหิรัญ (หมดสัญญายืมตัว), ชิเนดู เอเด, โยฮัน ตาวาเรส, กิลแบร์โต้ มาเชนา, วิทยา หมัดลำ, อนุศิษฏ์ เติมมี (ชัยนาทยืมตัว), ดราแกน บอสโควิช, เจย์ซี จอห์น, ศศลักษณ์ ไหประโคน, สมปอง สอเหลบ, ศรายุธ สมพิมพ์, ออสการ์ คาห์ล, พงศกร สีรอด (ตราดยืมตัว), กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก รวมถึง มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่ย้ายข้ามฟากไปบางกอกลาส เอฟซี

ขณะที่นักเตะย้ายเข้ามีเพียง สุรเชษฐ์ งามทิพย์, ร็อบสัน เฟอร์นันเดส, วานเดอร์ หลุยส์, เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส, สิทธิโชค กันหนู, คาร์ลอส ซาลอม และ ไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ด นายด่านลูกครึ่งทีมชาติฟิลิปปินส์

แบงค็อก ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการต้องดิ้นรนหนีตกชั้นเลยนับตั้งแต่การเข้ามาบริหารงานของกลุ่มทรู ที่สำคัญยังก้าวขึ้นไปถึงผู้ท้าชิงความสำเร็จมาหลายซีซั่น แต่ครั้งนี้กลับเลือกตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะส่งผลกระทบกับทีมมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็น ดราแกน บอสโควิช กองหน้าดาวซัลโวไทยลีกปีที่แล้วในฐานะกัปตันทีมที่โยกไปการท่าเรือ เอฟซี รวมถึง มาริโอ ยูรอฟสกี้ มิดฟิลด์จอมแอสซิสต์ที่ย้ายไปบางกอกกลาส แบบฟ้าผ่าในวันเปิดตัวสโมสร เรียกว่าตัวต่างชาติของปีที่แล้วปล่อยยกชุด

การเปลี่ยนแปลงไม่เพียงตัวผู้เล่นเท่านั้นชุดแข่งจากเดิมที่ใช้สีแดง-ดำ เป็นเสื้อทีมเหย้า เปลี่ยนเป็นดำล้วน ขณะที่ชุดเยือนจากเดิมขาวล้วนเปลี่ยนเป็นแดงล้วน ขณะที่ชุดที่สามใช้สีขาวล้วน นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรูปลักษณ์ของโลโกจากเดิมจะมีพื้นหลังเป็นสีน้ำเงินคราวนี้ใช้สีดำ

นายขจร กล่าวว่า การที่ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เนื่องจากที่ผ่านมาสโมสรมีนักเตะที่อายุมากอยู่ในทีมหลายคนค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่นเกิน 30 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากเรียกว่ามีเวลาให้ใช้งานอีกไม่นานจึงต้องปรับเปลี่ยนให้ค่าเฉลี่ยลดลง ซึ่งตอนนี้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 26 ปีเท่านั้น

“ช่วงอายุขนาดนี้ถือเป็นช่วงกำลังขึ้นสู่จุดสูงสุดของนักอาชีพแม้ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากมีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเราจึงมีการพูดคุยกับโค้ชมาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนวางแผนเป็นอย่างดีเพื่อเตรียมรับมือกับเหตุไม่คาดคิด แต่เท่าที่เห็นจากการฝึกซ้อมนักเตะไม่ได้มีปัญหาเรื่องทีมเวิร์คแต่อย่างใดทุกคนเข้าขากันเป็นอย่างดี”

“นโยบายหลักของเราคือการเล่นเป็นทีมไม่พึ่งซูเปอร์สตาร์แต่เน้นการเล่นเป็นระบบหรือทีมเวิร์ค และด้วยขนาดของอายุผู้เล่นผมมีความมั่นใจว่าภายใน 3 ปีแบงค็อกจะไปถึงตำแหน่งแชมป์ไทยลีกอย่างแน่นอน ส่วนปีนี้เราอยากทำให้ดีที่สุด แต่สิ่งที่แฟนบอลรวมถึงคู่แข่งจะได้เห็นนั่นคือการเล่นที่สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน” นายใหญ่แข้งเทพกล่าว

แบงค็อก ถือว่าเปิดหัวค่อนข้างเหนื่อยเพราะนัดแรกจะต้องเจองานหนักเมื่อเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองแชมป์เก่า แม้ว่ามาโน่ โพลกิ้ง จะได้รับใบประกาศจบอบรบโค้ชระดับโปรไลเซนส์มาหมาดๆ แต่อย่าลืมว่าโค้ชที่จบรุ่นเดียวกันมี “โค้ชแบน”ธชตวัน ศรีปาน ของเมืองทองรวมอยู่ด้วย

ถึงตอนนี้คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรกับทีมได้อีกแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจากนี้ทีมงานทุกฝ่ายจะร่วมมือร่วมใจทำให้การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด เมื่อกล้าที่จะเปลี่ยนต้องกล้าที่จะยอมรับผลที่ตาม ไม่ว่าผลนั้นจะดีร้ายมากน้อยเพียงใดก็ตาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน