นายกฯ ปลื้มงบ 1.6 พันล้าน อัดฉีดวงการกีฬา หวังเห็นผู้เล่นมากขึ้น พัฒนาระดับรากหญ้า โยนถามหน่วยงานเกี่ยวข้อง ปัญหานักกีฬาถูกดองเงินอัดฉีด
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 มี.ค.2567 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ว่า วันนี้เป็นวันที่น่ายินดี มีเงินอัดฉีด 1,640 ล้านบาท 4 ปี ถือเป็นการนำโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลของประเทศ
ถ้ากีฬาไทยดี รอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนก็เกิดขึ้น เหมือนการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติเกาหลีใต้ในรอบที่ผ่านมา แม้ผลจะออกมาไม่เป็นที่ต้องการ แต่ถ้าหากดูบรรยากาศถือเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งที่คนไทยให้ความสนใจ ถือเป็นความหวังและแรงบันดาลใจให้เยาชนในการพัฒนาตนเองให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น
เงินงบประมาณดังกล่าว เราไม่ได้ให้เยอะขึ้น แต่จำนวนสมาคมเพิ่มเยอะขึ้น ตรงนี้เป็นเรื่องน่ายินดี ขอบคุณคณะทำงาน นอกจากนี้สปอนเซอร์ก็มีส่วนสำคัญ
เมื่อถามถึงโครงการ 1 รัฐสาหกิจ 1 กีฬาที่กลับมาปัดฝุ่นใหม่ ประสบความสำเร็จหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนว่าดี ต้องขอบคุณคณะทำงานทุกคน รวมทั้งสปอนเซอร์ที่สนับสนุน อย่างที่บอกครั้งสุดท้ายคือ 500 ล้านบาท เมื่อ 4 ปี คราวนี้ 1.6 พันล้าน เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่คงไม่หยุด จะพยายามหาทางช่วยเหลือวงการกีฬาต่อไป
จากเดิมมีไม่กี่สมาคมกีฬา ตอนนี้ได้มาเกือบทุกสมาคม เป็นเพราะคณะทำงาน ความจริงแล้วยังมีกีฬาอีกหลายประเภทที่ต้องได้รับการสนับสนุน ฉะนั้น เราต้องพยายามให้ความยุติธรรม มีระบบการคัดเลือกให้ถูกต้อง
เมื่อถามว่าหลังจากมีเงินมาสนับสนุน อยากเห็นอะไรในวงการกีฬา นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องผลงานเป็นส่วนหนึ่ง แต่การจะนำคนเข้าสู่วงการกีฬา มีผู้เล่นเยอะขึ้น มีการพัฒนาระดับรากหญ้าให้เยอะขึ้น เช่น สมาคมฟุตบอล ที่ได้รับเงินไปส่วนหนึ่งจะไปพัฒนาลีกล่าง คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องสนับสนุน
เมื่อถามกรณีที่มีนักกีฬาบางส่วนยังไม่ได้รับเงินอัดฉีดหลังจบการแข่งขัน จะดำเนินการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “ผมว่าต้องไปถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ความจริงมันต้องให้เขาได้เงิน วันนี้เราพูดเรื่องรัฐวิสาหกิจที่มาเป็นสปอนเซอร์ดีกว่า”
