กรณีมีการแชร์ภาพสภาพเก้าอี้ความเสียหายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ทางสังคมออนไลน์ ที่ชำรุดหลังแมตช์ในชิงชนะเลิศระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติสโลวาเกีย ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการกล่าวหาว่าแฟนบอลทำเก้าอี้พัง

ต่อกรณีดังกล่าว นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เจ้าของสถานที่กล่าวว่า “หลังจากแมตช์เมื่อคืน เราต้องตรวจสภาพก่อน และต้องไปดูในประกันที่ฝ่ายจัดการแข่งขันทำสัญญาไว้ระบุไว้ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร เรามีในสัญญาการเช่าสนาม

“ส่วนมากก็พังทุกครั้ง แข่งทีก็พังที เวลาเชียร์ ก็ขึ้นไปยืนข้างบน กองเชียร์จะโยกกัน ซึ่งเป็นผลอาจจะทำให้ชำรุดได้ ซึ่งเราจะให้ฝ่ายธุรกิจสิทธิ์ประโยชน์เข้าไปดูความเสียหายก่อนแล้วจึงจะแจ้งสมาคม”

“กกท. เราซ่อมแซมเรื่องนี้กันมาตลอด ปีก่อนได้ตั้งงบประมาณซ่อมต่อเนื่องที่ละ 10,000 ตัว จนครบทั้งสนามไปแล้ว แต่ปีนี้มาเสียหายอีก จึงไม่ได้ตั้งงบประมาณส่วนนี้เอาไว้ เราซ่อมทุกครั้งๆ 400-500 ตัว ต่อ ครั้ง ตัวนึงตกประมาณ 200 บาทได้ แต่ซ่อมแล้วไม่ดีเหมือนเดิม ถ้าหลุดก็ใช้เหล็กดามเอา แต่ถ้าพลาสติกแตกก็ต้องเปลี่ยนที่นั่งกันไป”

“เวลาเชียร์ ตัวเราก็มันไปด้วย ผมเข้าใจดี เราคงไม่ไปเอาผิดน้องๆกองเชียร์หรอก แต่คงจะต้องตักเตือนกองเชียร์ของเรา ไม่งั้นจะเคยตัว เราเองเข้าใจว่าการยืนเชียร์พื้นไม่สนุก แม้แต่ตัวเราเองก็อยากยืน แต่เราจำเป็นต้องว่าการทำแบบนี้คนจัดเขาจะต้องเสียค่าซ่อม เราไม่อยากให้ชำรุด มีรอยซ่อมแซม คงไปห้ามไม่ได้ค่อยมาซ่อมแซมค่อยๆตักเตือนกันไป ตอนเชียร์คงบอกไม่ได้ ก็แอบคิดถ้าชนะอาจจะพังมากกว่านี้ แต่ไม่เป็นไร เราเข้าใจอารมณ์ของกองเชียร์เพราะเกมการแข่งขันเมื่อวานสูสีและสนุกจริงๆ ”

ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ Thailandsusu ไทยแลนด์สู้ๆ แชร์ภาพดังกล่าว พร้อมระบุว่า สาเหตุที่เก้าอี้พังจำนวนมากน่าจะมาจากสภาพที่เก่าจนเสื่อม มากกว่าจะเป็นฝีมือของแฟนบอลที่ทำพัง พร้อมกันนี้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นยืนยันว่า เก้าอี้สภาพเก่า ทำให้ชำรุดเสียหายได้ง่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน