หนุ่มปากน้ำ-สาวเมืองชลผงาดเหรียญทองลูกหนังกีฬาเยาวชนแห่งชาติ

กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 34 “น่านเกมส์” ระหว่าง 19-29 มี.ค. ที่จ.น่าน เมื่อ 28 มี.ค. ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมชาย ที่สนามมทร.ล้านนา วิทยาเขตน่าน สมุทรปราการ แชมป์เก่าลงสนามพบ สุพรรณบุรี เกมนี้ทีมเมืองปากน้ำที่ขนนักเตะจากร.ร.ราชวินิต บางแก้ว มาทั้งทีมยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะแบบไม่ยาก 2-0 จากลูกโทษที่จุดโทษของ ณัฐวุฒิ เริงเกษตรกิจ นาที 15 และเกียรติขจร แสนคำราง นาที 51 ทำให้สมุทรปราการป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย

ส่วนทีมหญิง ที่วิทยาลัยเทคนิคน่าน รอบชิงชนะเลิศชลบุรี รองแชมป์เก่าจากชุมพร-ระนองเกมส์ ลงสนามพบกรุงเทพมหานคร โดยเกมนี้ทีมเมืองหลวงเล่นดีกว่าในครึ่งแรกแต่จบสกอร์ไม่ได้เอง ก่อนที่ครึ่งหลังนาที 75 ชลบุรีได้ลูกโทษที่จุดโทษและเป็น ณัฐณิชา กาฬสินธุ์ ยิงให้ชลบุรี ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นนาที 76 ปริยาภัทร กากแก้ว ยิงให้ชลบุรีหนีห่าง 2-0 และช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ปริยาภัทร ยิงประตูที่ 2 ให้ตัวเองในเกมส่งนี้ชลบุรีเอาชนะกรุงเทพมหานคร 3-0 กลับมาคว้าแชมป์กีฬาเยาวชนแห่งชาติอีกครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่ได้แชมป์คือ “จันทบูรณ์เกมส์” ที่จ.จันทบุรี เมื่อปี 2558 นอกจากนี้ ปริยาภัทร ยังครองดาวซัลโวสูงสุดของน่านเกมส์เมื่อยิงไปทั้งสิ้น 17 ประตู

ฟุตซอล รอบชิงชนะเลิศ ที่ร.ร.ศรีสวัสดิ์วิทยาคาร ประเภททีมหญิง กรุงเทพมหานคร แชมป์เก่าลงสนามพบ ขอนแก่น คู่ปรับสำคัญและรองแชมป์เก่าจากชุมพร-ระนองเกมส์ ผลปรากฏว่าสาวเมืองหลวงยังเล่นได้อย่างแข็งแกร่งเอาชนะไปได้อีก 7-3 คว้าเหรียญทองไปครองอีกสมัย ส่วนประเภททีมชาย กรุงเทพมหานคร ลงสนามพบสมุทรปราการ ผลปรากฏว่าทั้งสองทีมสู้กันอย่างสนุกก่อนที่หนุ่มกรุงเทพฯ จะเอาชนะ 8-6 คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ

คริกเก็ต รอบชิงชนะเลิศ ที่ร.ร.เวียงสา อ.เวียงสา ประเภททีมหญิง เชียงใหม่ ชนะ ศรีสะเกษ 137-90 คว้าเหรียญทอง ส่วนประเภททีมชาย เชียงใหม่ เฉือนชนะ มหาสารคาม 109-108 เก็บเหรียญทอง

จักรยาน รอบชิงชนะเลิศ ประเภทลู่ที่สนามสมโภช 700 ปีเชียงใหม่ (เฉพาะทอง) สปรินต์หญิง กัญญารัตน์ หน่อแก้ว (พิษณุโลก), สปรินต์ชาย จิรพงศ์ ภักดิ์ศรีวงศ์ (กทม.), สปรินต์ทีมชาย (3 รอบ) พิษณุโลก (จิรวรรษ ใจกันทา, ศิทธิศักดิ์ คงกรุด, เมธัส อินทร์จันทร์, ทักษ์ แก้วน้อย) 01.08.92 นาที, เปอร์ซูตบุคคลชาย 3 ก.ม. ทักษ์ แก้วน้อย (พิษณุโลก) 03.48.27 นาที, เปอร์ซูตทีมชาย 4 ก.ม. กรุงเทพมหานคร (ธนษภณ สมนึก, ปริตต์ จันทร, ยืนยง เพชรรัตน์, นิติพงศ์ ชอบทำกิจ, สันทวรักษ์ สนิทเปรม) 04.41.32 นาที

เทนนิส รอบชิงชนะเลิศที่อบจ.น่าน ประเภทหญิงคู่ สุพรรณบุรี (ไอราวรรณ ดีวาจี, อัญชิสา ฉันทะ) ชนะ ประจวบคีรีขันธ์ (ณัชชารีย์ ธีรโชติจานนท์, กัลยรัตน์ มหาชัย) 0-2 เซ็ต 6-1, 6-3, ชายคู่ สุพรรณบุรี (กษิดิศ สำเร็จ, ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์) ชนะ กรุงเทพมานคร (ภาธร หาญชัยกุล, นพดล น้อยกอ) 2-1 เซ็ต 4-6, 6-1, 10-5, คู่ผสม สุพรรณบุรี (กษิดิศ สำเร็จ, ศุภาพิชญ์ เกือรัมย์) ชนะ นนทบุรี (ขุนก้อง อุ่นเมือง, สลักทิพย์ อุ่นเมือง) 2-0 เซ็ต 6-0, 6-1

บาสเกตบอล รอบชิงชนะเลิศ ที่มทร.ล้านนา วิทยาเขตน่าน ทีมหญิง อ่างทอง ชนะ นครปฐม 81-77 คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนทีมชาย กรุงเทพมหานคร ยังแข็งแกร่งเอาชนะ นนทบุรี 82-68 ได้เหรียญทอง

แบดมินตัน รอบชิงชนะเลิศ ที่หมู่บ้านสันติภาพ 2 ยุวชนหญิงเดี่ยว พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ (เชียงใหม่) ชนะ ปทิดา ศรีสวัสดิ์ (กทม.) 2-0 เกม, ยุวชนชายเดี่ยว ปิติกมล พานแก้ว (แพร่) ชนะ ภัทรลภัส ใช้ฮวดเจริญ (ชลบุรี) 2-0 เกม, ชายเดี่ยว ธีรภัทร เขียวหวาน (นนทบุรี) ชนะ วิชญพงศ์ กาญจนคีรีวงศ์ (กทม.) 2-0 เกม, ชายคู่ กรุงเทพฯ (ปัณฑ์ธร แสงวาณิช, วีรภัทร ภาคจรุง) ชนะ เชียงใหม่ (ศรัณยภัทร ปราณี, นรุตม์ชัย ชัยนลินพัฒน์) 2-0 เกม, หญิงเดี่ยว ภรมณ จำแนกทาน (กทม.) ชนะ ภควดี สุขใจ (นครราชสีมา) 2-0 เกม, หญิงคู่ สมุทรปราการ (ณัฐธิดา มูลอนันต์, ยมลภัทร ธเนศอนุกุล) ชนะ กรุงเทพฯ (ทิพธิดา คงสอน, พิชญานิน อังคะ) 2-1 เกม, คู่ผสม กรุงเทพฯ (วีรภัทร ภาคจรุง, ศรารัตน์ เชื้อบ่อคา) ชนะ สมุทรปราการ (พงษ์บัณฑิต อารีภูวไนยกุล, สรวงสุภา ศุภสังข์) 2-0 เกม

มวยสากลสมัครเล่น รอบชิงชนะเลิศที่วิทยาลัยเทคนิคน่าน รุ่นไม่เกิน 46 กก.ชาย มินทราดา ฤทธิวงศ์ (พิษณุโลก) ชนะอาร์เอสซี ภานุวัฒน์ จันทระ (ชุมพร), ไม่เกิน 49 กก.ชาย สัณหเจต แก้วพูน (ศรีสะเกษ) ชนะคะแนน ดนัย เงียบภูเขียว (อ่างทอง), ไม่เกิน 52 กก.ชาย พงศพล ปัญญาคำ (อ่างทอง) ชนะคะแนน ธีรพัฒน์ สมดี (ศรีสะเกษ), ไม่เกิน 56 กก.ชาย ยอดทะนง เชื้อเพชร (พิษณุโลก) ชนะคะแนน มฆวัน พิมพ์คง (อุบลราชธานี), ไม่เกิน 60 กก.ชาย กิตติศักดิ์ สวนนิภา (อ่างทอง) ชนะอาร์เอสซี อภิวัฒน์ แกล้วกล้า (พิษณุโลก), รุ่นไม่เกิน 64 กก.ชาย บุญช่วย โพนสูงเนิน (อ่างทอง) ชนะคะแนน ธนวัฒน์ ศรีจันทร์ (อุบลราชธานี), รุ่นไม่เกิน 69 กก.ชาย ปกร คำแว่น (เพชรบูรณ์) ชนะน็อก กิตติวินท์ ประวงศ์เดือน (นนทบุรี) ยกที่ 1, ไม่เกิน 75 กก.ชาย สุทธิชัย เกื้อฉิม (ตรัง) ชนะอาร์เอสซี วริทธิ์นันท์ หวันดีน (สุราษฎร์ธานี), ไม่เกิน 81 กก.ชาย สุรินธร ดำเปล่า (นราธิวาส) ชนะอาร์เอสซี วัทน์ศิริกองคำ (น่าน) โดยนักกีฬามวยยอดเยี่ยมตกเป็นของ บุญช่วย โพนสูงเนิน และผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ศิริชัย โพนสูงเนิน จากจ.อ่างทอง