บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกลูกหนังไทย ชี้ชัดไทยศักยภาพเหนือกว่าชาติอื่นในอาเซียนเสนอตัวจัดซูซูกิ คัพ รอเพียงคำตอบจากรัฐบาล

บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมลูกหนังไทย มั่นใจ ถ้ารัฐบาลไทยเอาด้วย เจ้าภาพซูซูกิคัพ คงไม่หลุดจากมือแน่ คาดใช้งบประมาณ 120-150 ล้านบาท โดยเอเอฟเอฟ จะช่วย 33 ล้านบาท ขณะที่คู่แข่งอย่างกัมพูชา สิงคโปร์ โชว์ป๋าก่อนแล้ว ยินดีควักเองทั้งหมด ไม่รับเงินอุดหนุนดังกล่าว

ประเทศไทย เจอโจทย์สำคัญ ในการชิงการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2021” ในเดือนธ.ค.นี้ เมื่อคู่แข่งอย่าง กัมพูชา และอาจรวมถึง สิงคโปร์ จะโชว์ป๋า ยินดีไม่รับเงินสนับสนุนจากสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 32.7 ล้านบาท โดยยินดีควักทุนตัวเองทั้งหมดเพื่อจัดแข่งขัน

เดิมทีศึกซูซูกิคัพ จะจัดแบบเหย้า-เยือน แต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีปัญหาด้านการเดินทาง เอเอฟเอฟ ปรับรูปแบบมาจัดแบบมีเจ้าภาพ ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เห็นด้วยที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แสดงท่าทีในการเสนอตัวจัดเช่นกัน โดยล่าสุด มีกัมพูชา กับ สิงคโปร์ อีก 2 ชาติ ที่ร่วมวงชิงเป็นเจ้าภาพ

ผู้สื่อข่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมลูกหนัง ได้รับข้อมูลว่า ประเทศไทย มีข้อที่ได้เปรียบชาติอื่นคือ เป็นประเทศเดียว มีประสบการณ์เคยจัดรายการใหญ่ อย่างฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2020

รวมถึงการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งจัดแบบบับเบิล ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี

ประมุขลูกหนังไทย กล่าวอีกว่า สำหรับการเป็นเจ้าภาพซูซูกิคัพ ทางเอเอฟเอฟ จะมีเงินสนับสนุนให้ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 32.7 ล้านบาท) ซึ่งนั่นเป็นภาวะปกติ แต่จากจากที่คำนวนแล้ว ในการจัดในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ต้องทำบับเบิ้ล, ตรวจเชื้อตามมาตรการ ค่าใช้จ่ายจะเกิดขึ้นมากมาย หากจัดให้ได้ตามมาตรฐาน คาดว่าต้องใช้เงิน 120-150 ล้านบาท

ดังนั้น ประเทศไทยต้องหาเงินเพิ่มจากที่เอเอฟเอฟ สนับสนุน ขณะเดียวกัน ทราบมาว่า กัมพูชา มีข้อเสนอให้เอเอฟเอฟ คือจะไม่รับเงินสนับสนุนดังกล่าว ขณะที่ สิงคโปร์ คาดว่าจะไม่รับด้วยเช่นกัน แต่ไทยนั้น หากจะจัดต้องรับเงินสนับสนุนดังกล่าวมาช่วยเหลือ

ประมุขลูกหนังไทย กล่าวด้วยว่า ตอนนี้สิ่งสำคัญคือรัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ สมาคมได้ทำเรื่องไปยังกกท.แล้ว หากจะจัดแข่งขัน จะมีงบประมาณข้างต้นที่ต้องจ่ายเพิ่มจากที่ได้สนับสนุนจากเอเอฟเอฟ หากจะจัดรัฐบาลต้องมีหนังสือตอบกลับ ซึ่งเอเอฟเอฟ กำหนดว่าต้องแจ้งภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้

“ตอนนี้อยู่ที่รัฐบาล ถ้าไม่มีหนังสือยืนยันว่าพร้อมจะจัดคงเป็นเจ้าภาพไม่ได้ แต่ถ้ารัฐบาลจะจัด ยังเชื่อว่าโอกาสได้มีสูง เพราะจากที่คุยเบื้องต้นกับสมาชิกเอเอฟเอฟแล้ว ต่างอยากจะมาจัดที่ไทย เพราะไทยเคยจัดรายการใหญ่มาแล้ว มีมาตรฐานสูง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน