นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA เปิดเผยระหว่างพิธีซื้อขายหลักทรัพย์ VRANDA วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยราคาเปิดที่ 11.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ราคาหุ้นละ 10 บาท ว่า เชื่อว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่น ประกอบกับที่ผ่านมามีกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมียอดจองเกินความต้องการ รวมถึงบริษัทมีพัฒนาการเติบโตที่ดี สำหรับเงินที่ได้จากการขาย IPO บริษัทจะนำไปชำระหนี้เงินกู้ให้กับสถาบันการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยลดลงเหลือ 1 เท่าจากเดิมอยู่ที่ 2 เท่า

ขณะเดียวกันยอมรับว่าแนวโน้มผลประกอบการปี 2562 จะต่ำกว่าปี 2561 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 235.77 ล้านบาท โดยเติบโตจากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 22.23 ล้านบาท เนื่องจากในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดโอนคอนโดมิเนียมในโครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา ค่อนข้างมาก ขณะที่ในปีนี้รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก ในปี 2563 มีแนวโน้มผลประกอบการจะเติบโตกว่าในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 30% เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากยอดโอนคอนโดมิเนียมในโครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 80% จากมูลค่าโครงการรวม 2,400 ล้านบาท โดยที่โครงการนี้จะมีความสามารถในการทำกำไรได้ดีกว่าโครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา ด้วย

อย่างไรก็ดี ในส่วนของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายทั้งหมด 4 สาขา ประกอบด้วยร้าน KOF 1 สาขา ร้าน SKOOP&Co 2 สาขา ที่โครงการเจ อเวนิว ทองหล่อ และโครงการเดอ มาเซ่ จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายร้านชานมไข่มุก The Alley 1 สาขา ในโครงการเดอ มาร์เช่ ด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ยังมีแผนจะเข้าซื้อกิจการในกลุ่มธุรกิจอาหารด้วย แต่ยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน