สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2560 ปิดที่ 1,708.84 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.03 จุด คิดเป็น +0.41% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,711.58 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,704.97 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 57,626.26 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,086.25 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.27 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 0.72% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ และ 3M นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวได้ดีในเดือนต.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ รวมทั้งการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และสถานการณ์การเมืองในประเทศสเปน ซึ่งรัฐสภาของสเปนและแคว้านกาตาลุญญาจะจัดการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการเช่นไรกับสถานการณ์ชะงักงันที่เกิดขึ้น
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น 0.26% ภายหลังจากที่ได้มีการประกาศรายชื่อของคณะกรรมาธิการกองทัพกลาง (CMC) ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนรับตำแหน่งประธาน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 0.45% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิปิดบวกติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. TOA มูลค่าการซื้อขาย 2,871.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท คิดเป็น +3.65%
2. IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,172.08 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,104.07 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
4. SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,421.48 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5. TISCO มูลค่าการซื้อขาย 1,361.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +4.00 บาท คิดเป็น +4.69%
ดัชนีมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อในลักษณะกระโดดเปิด GAP เล็กน้อย ก่อนที่จะผ่านขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้ในช่วงเช้า แต่ในช่วงบ่ายมีแรงขายทำกำไรกลับลงมากดให้ดัชนีลงมาปิด GAP ดังกล่าว และประคองตัวแกว่งตัวแคบๆ ตลอดบ่ายและปิดแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้
หากวันนี้ดัชนีประคองตัวปิดเหนือระดับ 1,708 จุดไม่ได้เป็นอย่างน้อยอีก ดัชนีอาจซึมลงต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,698-1,696 จุดได้อีกครั้ง หรือเต็มที่เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแถวๆ 1,691 จุด ไม่หลุดต่ำกว่าแถวๆ นี้ดัชนีอาจมีแรงซื้อกลับได้ ในขณะที่แนวต้านสั้นๆ อยู่แถวๆ 1,711 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
