ซีพี ชี้ พร้อมให้ โลตัส พระราม 4 เป็นจุดฉีดวัคซีน ชุมชนคลองเตย 90,000 คน คาดใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ เตรียมช่วยเหลือด้านอาหาร เริ่มพรุ่งนี้

วันที่ 4 พ.ค.2564 นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี เปิดเผยถึงความพร้อมในการฉีดวัคซีนและการช่วยเหลือชุมชนคลองเตย ว่าภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 มีมติให้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ให้ชุมชนคลองเตยวันที่ 4 พ.ค. โดยเครือซีพีมีเวลาเพียง 18 ชั่วโมงในการเตรียมความพร้อมให้ใช้พื้นที่ โลตัส พระราม 4 สำหรับตั้งจุดฉีดวัคซีนในเวลา 13.00 น.ของวันนี้

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางเครือซีพีได้รับการติดต่อจากมูลนิธิดวงประทีป ถึงสถานการณ์ชุมชนคลองเตย ในขณะนี้นพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสมกว่า 200 ราย ทำให้มีความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวัน และหลังจากนั้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ได้รับการติดต่อจากทางกรุงเทพมหานคร

ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ถึงสถานการณ์ของชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนแออัด และอาจเป็นจุดเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ทั้งในชุมชนและการกระจายเชื้อโควิดสู่ภายนอก จึงขอความร่วมมือที่จะให้พื้นที่โลตัส พระราม 4 เป็นจุดฉีดวัคซีน

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า การประสานงานใช้เวลาสั้นมาก และจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนในเวลา 13.00 น.ของวันที่ 4 พ.ค.เป็นต้นไป สำหรับการเตรียมความพร้อมไม่ว่าจะทางโลตัส และ ทรู คอร์ปอเรชั่นส์ ผู้ให้บริการเครือข่ายการสื่อสารทรูมูฟ ก็พร้อมที่จะอำนวยความสะดวก ตลอดจนด้านอาหารและเครื่องดื่ม ในจุดฉีดวัคซีน ก็ได้มีการประสานกับทางซีพีเอฟเพื่อให้บริการด้วยเช่นกัน

“เราเป็นส่วนหนึ่งของภาคเอกชน ในการช่วยสนับสนุนเท่าที่จะทำได้ ทั้งในด้านสถานที่ฉีดวัคซีน ด้านการสื่อสาร การเชื่อมโยงด้านอินเตอร์เน็ต อาหารและเครื่องดื่ม ทั้งนี้ ในฐานะเอกชนต้องยอมรับว่าคงทำได้ไม่เท่ากับที่ภาครัฐต้องดำเนินการอยู่แล้ว แต่เราก็ให้ความร่วมมือเต็มที่ ตลอดจนการให้ความร่วมมือด้านแพลตฟอร์มทรู วี เฮลธ์ ซึ่งมีแพทย์อาสาในการที่จะช่วยให้คำปรึกษา แนะนำ และประสานในกรณีที่เป็นเคสหนัก ๆ แต่เชื่อว่าทางกทม. ร่วมกับโรงพยาบาลรัฐ จะให้การสนับสนุนติดตามอยู่แล้วด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกกักตัวอาจต้องการคลายความเครียด ดังนั้น ทางทรู คอร์ปอเรชั่น ก็ได้พิจารณาเรื่องระบบการสื่อสารสำหรับคนในชุมชนที่ยังต้องทำงาน รวมถึงกล่องทรูวิชชั่น สำหรับรับชมความบันเทิงและให้ความรู้กับชาวชุมชน ระหว่างการกักตัว” นายศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันชุมชนมีผู้อาศัยอยู่จำนวนกว่า 90,000 ราย ซึ่งตามนโยบายของภาครัฐ คาดว่าจะต้องดำเนินการฉีดวัคซีนในชุมชนคลองเตยในครั้งนี้ให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น คาดว่าจะต้องใช้เวลาในการฉีดวัคซีนไม่น้อยกว่า 2-3 สัปดาห์ หรือ ปริมาณในการฉีดวัคซีนต่อวันในหลัก 1,000 คน หรือดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ขณะเดียวกัน เนื่องจากได้รับข้อมูลจากมูลนิธิดวงประทีป ว่าชาวชุมชนไม่สามารถออกนอกบ้านเพื่อทำงานตามปกติได้ ทางเครือซีพีเองก็ได้เข้าไปช่วยชุมชนคลองเตยในด้านของอาหาร โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นไป จำนวน 200 ครัวเรือน เบื้องต้นจะดำเนินการเป็นรายสัปดาห์ก่อน

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า การดำเนินการทั้งหมดที่กล่าวมา ถือเป็นหนึ่งความร่วมมือของภาครัฐกับเอกชนตลอดจนภาคประชาสังคมอย่างมูลนิธิดวงประทีป และมองว่าเครือซีพี คงต้องทำเรื่องนี้ต่อเนื่องกระทั่งคนไทยทั้งประเทศได้รับการฉีดวัคซีน แต่ทั้งนี้คงต้องให้ความสำคัญกับจุดที่มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโควิดเป็นอันดับแรก ๆ ก่อน

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งครั้งนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ภาครัฐมีการตัดสินใจรวดเร็วในการที่จะเข้าถึงและจัดพื้นที่การฉีดวัคซีนทันทีภายใน 18 ชั่วโมง ส่วนเรื่องวัคซีนเป็นเรื่องของภาครัฐ โดยกระทรวงสาธารณสุข มีแผนนำเข้าวัคซีน นอกจากนี้การให้ความรู้เรื่องอาหารที่ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น ตลอดจนการเสาะหายาสำหรับรับประทาน ซึ่งทางเครือซีพีก็ให้ความสนใจ และหากมีการคิดค้นสำเร็จ คาดว่าในไตรมาส 3 นี้ทั่วโลกจะมีตัวยานี้ออกมา

“ในระหว่างนี้การดูแลตัวเองและการ์ดไม่ตกเพื่อป้องกันตัวเองและป้องกันผู้อื่นด้วย โดยผู้ติดเชื้อและกักตัวเองอยู่บ้านถือว่าเสียสละ ดังนั้นควรช่วยกันและร่วมมือกันอย่างจริงจัง ซึ่งในกรณีชุมชนคลองเตย หากทำได้จะเป็นกรณีชุมชนตัวอย่างให้กับชุมชนอื่นๆ ที่มีความเสี่ยง เพราะการแพร่ระบาดที่วโลกก็เข้าสู่ระลอกที่ 3 ไม่ว่าจะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว อย่าง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ยุโรป ได้ผ่านระลอก 3 มาก่อนไทย ส่วนอินเดีย ก็เข้าสูระลอกใหญ่มาก” นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคทั่วโลกยังอยู่ในอัตราเร่ง ซึ่งต่างประเทศเริ่มควบคุมได้ เพราะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งประเทศไทยกำลังดำเนินการอยู่ และตามนโยบายของรัฐบาล จะทยอยฉีด 100 ล้านโดสให้ประชาชนทุกคนให้ได้ภายในปีนี้ ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดี ส่วนภาคเอกชนสิ่งที่จะทำได้และร่วมกับภาคประชาสังคม ทางเครือซีพีก็จะทำเต็มที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน