กลุ่มคนดนตรี ร้องผู้ว่าฯ ลำปาง วอนผ่อนปรนจัดงาน หลังหยุดนาน 4 เดือน ไร้รายได้ ยันพร้อมปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด ขอโอกาสกลับมาทำงาน
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดลำปาง ชมรมวงดนตรีและเครื่องเสียงนครลำปาง นำโดยนายเอกสิทธิ์ มานะรุ่งโรจน์ ประธานชมรมฯ พร้อมตัวแทนสมาชิกและพนักงานว่า 300 คน มายื่นหนังสือต่อนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ขอขยายจำนวนคนในการจัดงานรื่นเริงต่างๆ ช่วยให้มีการจ้างงานให้นักดนตรีมีรายได้ หลังจากไม่มีการจัดงานและถูกยกเลิกงานจ้างมานาน 4 เดือนแล้ว โดยมีหัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำปาง และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปางเป็นตัวแทนมารับหนังสือ
นายเอกสิทธิ์ เปิดเผยว่า ขอความกรุณาพร้อมทั้งขอให้พิจารณาทบทวนแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่ง หรือมีมาตรการผ่อนปรนตามสถานการณ์การบริหารการแก้ปัญหาภัยโควิด-19 ให้เหมาะสมกับพื้นที่จ.ลำปาง ด้วยข้อเสนอ 1.ให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งจำนวนคนร่วมงานจาก 200 คนเป็น 800 คน และหากมากกว่า 800 คน ก็ยินดีที่จะขออนุญาตและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด
2.การรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกัน 800 คนขึ้นไปนั้น ขอให้เป็นการจัดกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเท่านั้น และกำหนดเวลาจัดกิจกรรมได้ไม่เกินเวลา 23.00 น และขอให้ไม่มีการจัดกิจกรรมนอกเขตพื้นที่ จ.ลำปาง
3.การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มฯ ในสถานที่ที่เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ขอให้มีประกาศของจังหวัดให้ชัดเจนว่าสามารถให้มีการแสดงดนตรีและการร้องเพลงได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางการการกำหนดอย่างเคร่งครัดพร้อมปฏิบัติตามทุกประการ
“ด้วยเหตุผลดังกล่าว และเพื่อให้สอดรับกับที่นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดฯ ประกาศ ลงวันที่ 19 มิ.ย. 2564 และข้อปฏิบัติเพื่อปรับปรุงมาตรการควบคุมแบบบูรณาการให้เป็นไปอย่างเหมาะสม รวมทั้งผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ ให้ประชาชนสามารถประกอบกิจกรรมอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพใด้มากขึ้น ควบคู่กับการใช้มาตรการควบคุมโรค ที่มุ่งเน้นเฉพาะ
เป้าหมายกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุข”
นายเอกสิทธิ์ กล่าวต่อว่าขอให้ท่านได้โปรดพิจารณา ให้ความเมตตาและความเป็นธรรมแก่กลุ่มดังกล่าวที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการด้วยดีตลอดมา และที่ผ่านมาก็ไม่ปรากฏว่ามีนักดนตรีหรือนักร้องในลำปางติดโรคโควิด-19 แต่อย่างใด และขอให้พิจารณาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายไปกว่านี้และทางชมรมฯ ไม่ประสงค์ที่จะเรียกร้องเงินเยียวยาใดๆ จากการนี้ทั้งสิ้น ขอเพียงโอกาสได้กลับมาทำงานในสิ่งที่มีความพร้อม และเป็นสัมมาชีพที่ถนัดเท่านั้น
นายเอกสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากคำสั่งจังหวัดมีปัญหาบางประการในทางปฏิบัติไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นและตามข้อเท็จจริง เช่น การจัดกิจกรรม การรวมกลุ่มหากมากกว่า 200 คนต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตนเห็นว่าการจัดงานเลี้ยง เช่นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่จะมีผู้ร่วมงานชั้นต่ำประมาณ 500 คนขึ้นไป และผู้มีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการรับจ้างในงานเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี นักร้อง ผู้ให้เช่าเครื่องเสียง เครื่องไฟย่อมได้รับผลกระทบ
“ที่ผ่านมาเป็นเวลากว่า 4 เดือน นับจากต้นปี 2564 การจัดงานในลักษณะดังกล่าว ก็มีมาตรการห้ามจัด ทำให้งานจ้างถูกยกเลิกไปทั้งหมด ทางสมาชิกชมรมฯ ได้รับความเดือดร้อนมาก ไม่มีรายได้เพื่อการดำรงชีพและดูแลครอบครัวเลย จึงอยากให้มีการผ่อนปรนหรืออนุญาตให้จัดงานได้สอดคล้องตรงกับความเป็นจริง” นายเอกสิทธิ์ กล่าว
