ส.อ.ท. ชี้ ปุ๋ยเตรียมปรับราคาขึ้นแน่ เหตุสงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ไม่มีทีท่าจบ ส่งผลทบต่อภาคการเกษตรของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

10 มี.ค. 2565 – นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เหมือนช้างสารชนกัน เราเป็นหญ้าแพรกก็แหลกลาญ ดังนั้นในยามวิกฤตไทยจึงต้องพยายามมองหาโอกาส ดึงนักท่องเที่ยวยุโรปที่กำลังอยู่ในช่วงฤดูหนาว และต้องเผชิญกับวิกฤตราคาพลังงาน ให้มาท่องเที่ยวในไทย

วิกฤตราคาพลังงานทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นถึง 5% ขณะที่รายได้คนไทยตามไม่ทันเงินเฟ้อ ขนาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ ยังต้องขอปรับราคาขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัว ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย สุดท้ายต้องลดคน ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก เป็นปัญหาฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยแน่นอน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้รัฐจะมีนโยบายตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลล์ไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร บนสมมติฐานที่ราคาน้ำมันดิบยังไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งประเมินว่าอาจใช้เงินกู้ 20,000-30,000 ล้านบาท

แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันมีโอกาสจะขึ้นไปถึง 200 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล รัฐบาลจะต้องใช้เงินจำนวนมากเท่าไหร่ถึงพอที่จะอุ้มราคาน้ำมันได้ ซึ่งอาจต้องลดภาษีสรรพสามิตดีเซลล์ลงเหลือ 0% จากปัจจุบันลดลงแล้ว 3% จาก 5.99% จึงจะสามารถดูแลเสถียรภาพราคาในประเทศได้

ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้น ทำให้ราคาวัตถุดิบที่เป็นต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้นตามไปด้วย เช่น แป้ง ข้าวสาลีที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ สารเคมี/ปุ๋ยที่รัสเซียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้ราคาปุ๋ยจะปรับขึ้น ส่งผลทบต่อภาคการเกษตรของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน