อุดรธานี รวบอดีต รปภ.เสพยาบ้า ดื่มเบียร์ เมาคลุ้มคลั่งอาละวาด พยายามบุกเข้าอาคารโดมทุ่งศรีเมือง จนท.เร่งจับกุม ตรวจฉี่สีม่วง แจ้งข้อหาหนัก ส่งดำเนินคดี
28 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืออุดรธานี นำกำลังออกตรวจดูความเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบ ก่อนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เทศบาลนครอุดรธานี ว่า
มีเหตุคนคลุ้มคลั่งถืออาวุธอาละวาด พยายามจะเข้าไปในอาคารโดมหญ้าเทียม หรือกองอำนวยการทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ภายในสนามทุ่งศรีเมือง ฝั่งตรงข้ามกับ อบจ.อุดรธานี ถนนมุขมนตรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังจากได้รับแจ้ง จึงนำกำลังสายตรวจ พร้อมไม้ง่าม เข้าไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบชายสวมชุดดำ หมวกแก๊ปสีดำ สะพายกระเป๋าเป้ ทราบชื่อภายหลังว่า นายมานพ สมุห์โคกสูง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ซอยบางบอน 3 ซอย 1 แยก 2 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม.
ตำรวจจึงสั่งให้ยกแขนแล้วนั่งลง ชายดังกล่าวได้ทำตามคำสั่งแต่โดยดี จากการตรวจค้นตัว พบสร้อยคอทองคำเก๊ 2 เส้น เลสแขนเก๊ 1 เส้น นาฬิกาเรือนทองเก๊ ตรวจค้นกระเป๋าพบดิ้วเหล็ก 3 ท่อน และเงินสด 200 บาท
จากการสอบสวน นายมานพ ให้การว่า ตนเป็นคนไม่มีบ้าน เคยเป็น รปภ.อยู่กรุงเทพฯ ตอนนี้ตกงาน เลยเร่ร่อนไปเรื่อยๆ หลายที่ ได้นั่งรถทัวร์โดยสารประจำทางมาที่อุดรธานี โดยไม่ได้ตั้งใจมา และอาศัยนอนอยู่ใกล้อาคารโดมสนามทุ่งศรีเมืองประมาณ 1 สัปดาห์
เช้าวันนี้ตนได้ซื้อยาบ้าจากคนในทุ่งศรีเมือง เม็ดละ 50 บาท แล้วดื่มเบียร์ 2 ขวด แต่ไม่ได้อาละวาด ไม่ได้เข้าอาคารโดม ตนถือกระบองดิ้วเหล็กเฉยๆ ไม่ได้ตีใคร ตนมีดิ้วเหล็กเพราะเอาไว้ป้องกันตัวเท่านั้น แต่ก็มาโดนตำรวจจับ
นายสัณฐิติ สนสายสิงห์ อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่เทศบาลนครอุดรธานี ผู้ดูแลอาคารโดมหญ้าเทียม หรือกองอำนวยการทุ่งศรีเมือง ให้การว่า ตนออกไปทำธุระ แม่บ้านทำความสะอาดอาคารโดมโทรแจ้งตนว่ามีผู้ชายพยายามจะเปิดประตูเข้าไปในอาคาร ตนจึงรีบกลับมา เห็นผู้ชายคนนี้นั่งอยู่บริเวณหน้าอาคาร ตนจึงได้สอบถามไป ซึ่งชายดังกล่าวได้บอกว่า มีคนอยู่ข้างล่างอาคาร ตนเห็นว่ายังไม่มีอะไรเสียหาย จึงออกไปทำธุระต่อ กลับมาก็พบชายคนนี้ถือดิ้วเหล็กจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงแจ้งตำรวจ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายมานพไป สอบสวนต่อที่ สภ.เมืองอุดรธานี และได้ทำการตรวจปัสสาวะ พบว่า เป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดประเภท1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
