ผบ.ทอ. เผยนายกฯ โอเค หนุนงบซื้อเครื่องบินรบ เข้าใจความจำเป็น คาดสรุปเลือกแบบเครื่องบินเดือน มิ.ย. ระหว่าง “เอฟ-16” กับ “กริพเพน”
วันที่ 28 มี.ค. 2567 ที่หอประชุมรณนภากาศ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ทดแทนว่า คณะกรรมการคัดเลือกแบบฯ ที่มีเสนาธิการทหารอากาศเป็นประธาน กำลังดำเนินการอยู่ ในเดือน พ.ค. จะทำเวิร์กช็อป ทั้ง “เอฟ-16” และ “กริพเพน” เป็นการดูเงื่อนไขที่เราต้องการว่า นอกจากเรื่องสมรรถนะแล้วมีอะไรบ้าง เช่น ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจที่จะมีการแลกเปลี่ยนทางด้านการค้า
พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในโครงการดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ไม่ได้มีการระบุแบบเครื่องบินไว้ ซึ่งดูจากช่วงเวลาแล้วก็เป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้ และกองทัพอากาศน่าจะสรุปการเลือกแบบเครื่องบินได้ในสัปดาห์ที่ 2-3 ของเดือน มิ.ย.
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องปัจจัยแทรกซ้อนที่รัฐบาลจะนำงบประมาณไปใช้ในโครงการอื่นหรือไม่ ผบ.ทอ. กล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไร อยู่ที่เหตุผลความจำเป็น ปัจจุบันรัฐบาลทราบดีว่ากองทัพมีความจำเป็น ท่านเองก็ให้การสนับสนุนอยู่
เมื่อถามย้ำว่าคุยกับนายกฯ แล้วโอเคใช่หรือไม่ ผบ.ทอ. กล่าวว่า ครับ
เมื่อถามว่ามีภาพ ผบ.ทอ.ขึ้นทำการบินกริพเพนเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าจะเลือกเครื่องบินแบบดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ เพราะการคัดเลือกนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวผม แต่อยู่ที่ผลประโยชน์ของกองทัพเป็นหลัก หากค่ายไหน ไม่ว่าจะเป็นกริพเพน หรือเอฟ-16 ให้ประโยชน์กับกองทัพอากาศสูงที่สุดคณะกรรมการคงพิจารณาเป็นอันดับแรก เราไม่ได้คิดว่าแบบไหนได้ แต่จะดูลำดับความสำคัญเป็นหลัก รวมทั้งพูดคุยเจรจาจนสุดท้ายก็จะประกาศว่าเครื่องใดมีความสำคัญสุดแบบนั้นก็จะชนะไป”
“การที่ผมไปบินกริพเพน เพราะอยากไปดูการฝึกของน้องๆ ซึ่งนักบินของเราเก่งมาก และการที่ไปนั่ง เราจะเห็นภาพทั้งหมดของเครื่องบิน 70 กว่าเครื่อง หลากหลายแบบ ทำให้เราเห็นสถานการณ์ และภาพการฝึกทั้งหมดว่าเป็นไปตามฉากทัศน์ที่เราวางไว้หรือไม่ ทำให้เห็นว่าเครื่องบินของเราเข้าร่วมการฝึกระดับนี้ได้โดยไม่ด้อยกว่า” ผบ.ทอ. กล่าว
เมื่อถามถึงโอกาสที่จะกลับไปเป็นเครื่องบินเอฟ-35 โดยรัฐบาลช่วยเจรจานั้น พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กล่าวว่า เราเลยจุดนั้นมาแล้ว คงต้องมาดูเรื่องที่เราจะเดินต่อไปดีกว่า เพราะได้เตรียมการตรงนี้เอาไว้ค่อนข้างจะรัดกุมพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการได้มีการศึกษาอย่างละเอียดมาก ต้องให้เครดิตกับคณะกรรมการชุดนี้ด้วย
