หมอเจตน์ เชื่อ เป็นเรื่องยาก ศาลรัฐธรรมนูญ รับตีความอำนาจรัฐสภา แก้รธน. แนะ ยื่นแก้ไขเป็นประเด็น หวั่นตีเช็คเปล่า ส.ส.ร.ยกร่างทั้งฉบับ ไม่รู้เจตนา
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่องเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 31 ให้รัฐสภา มีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ
เวลา 15.35 น. นพ.เจตน์ ศิรธารานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาใครหากเรื่องยังไม่เกิดขึ้น การเสนอให้แก้ไขมาตราใดมาตราหนึ่ง โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญมีมาตลอด และถกเถียงกันตลอดอยู่แล้ว
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด กฎเกณฑ์ในการแก้ไขอาจจะแตกต่างจากกฎหมายธรรมดา และรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีทั้งแก้ไม่ได้ตามมาตรา 256 และแก้ได้ยาก โดยการพ่วงการทำประชามติเข้ามา ทำให้เกิดการตีความว่าจะต้องทำประชามติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 3
“นอกจากแก้ยากแล้ว หากแก้ตามปกติก็ต้องอาศัยเสียง สว. 2 ใน 3 จึงมีฝ่ายที่เห็นว่าทำไมสภาฯ จึงไม่แก้เป็นรายประเด็น จะยกเลิกองค์กรอิสระหรือใครก็ตาม ก็เสนอเข้ามา จะไปแตะหมวด 1 หมวด 2 ก็เสนอเข้ามา จะได้รู้ประเด็นในการแก้ไข หากตีเช็คเปล่า เสนอให้มี ส.ส.ร.ยกร่างขึ้นมาใหม่เพื่อแก้ไขทั้งฉบับโดยไม่มีรายละเอียด เราก็ไม่รู้ว่าเจตนาคืออะไร เพราะไม่มีโครงร่าง” นพ.เจตน์ กล่าว
นพ.เจตน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามสามารถส่งไปได้ โดยหลักการเท่าที่ผ่านมา เรื่องการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ยังไม่เคยมี และคิดว่ายากที่จะทำสำเร็จ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่รับตีความทางกฎหมาย ก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร
ส่วนรายละเอียดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่จะตามมาด้วยรายละเอียด และเหตุผลของร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะมีการแก้ไข โดยจะรู้ว่าจะแก้ไขอะไรอย่างไร เมื่อไม่มีรายละเอียด ตนคิดว่าเปรียบเสมือนการสร้างบ้าน
หากเราจะสร้างบ้านก็จะต้องทำประชามติ ในที่นี้คล้ายกับถามประชาชนในครั้งที่ 1 เมื่อเราวางแผนจะสร้างอย่างไร จะมีกี่ชั้น มีห้องอะไรบ้าง ก็ต้องถามประชาชนเป็นครั้งที่ 2 และถามครั้งที่ 3 ว่าจะเอาหรือไม่เอา
นพ.เจตน์ กล่าวอีกว่า ตนในฐานะ สว.มิบังอาจที่จะสรุปตีความฟังธงว่า จะต้องทำประชามติ 3 ครั้ง เพราะเรื่องนี้อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากท่านยอมรับเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
