ฆ่าโหด 2 ศพ ตา-ยาย พี่น้อง วัยเกือบ 90 ถูกทุบหัวโยนทิ้งบ่อน้ำหน้าบ้าน พบรอยเลือดกระเด็นรอบบ้าน บนบ้านถูกรื้อค้นของกระจัดกระจาย
วันที่ 17 เม.ย. 2567 พ.ต.ท.ภัคดี ตันอนุกูล สว.(สอบสวน) สภ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งมีศพถูกฆาตกรรม 2 ศพ ทิ้งอยู่ในบ่อน้ำ หน้าบ้านเลขที่ 28 หมู่ 10 ต.นาพญา อ.หลังสวน จึงรายงาน พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ก่อนรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน ตำรวจวิทยากร และหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูงสภาพเก่า ห่างจากบันไดหน้าบ้านประมาณ 5 เมตร พบบ่อน้ำขุดใช้ท่อปูนซีเมนต์ลึกประมาณ 5-6 เมตร ก่อเป็นขอบบ่อ ภายในบ่อมีกลิ่นโชยเหม็นคลุ้ง พบศพ 2 ศพลอยอืดโผล่ขึ้นมา โดยศพผู้หญิงทับอยู่บนศพผู้ชาย
เจ้าหน้าที่หน้าต้องใช้รถแบ็กโฮขุดดินปากบ่อขยายให้กว้าง เพื่อให้สะดวกต่อนำศพขึ้นมา เนื่องจากเจ้าหน้าที่กลัวว่าหลักฐานจากศพจะถูกทำลายระหว่างขนย้าย โดยใช้เวลาขุดปรับสภาพพื้นดินรอบบ่อนานเกือบ 3 ชั่วโมง
จากนั้นหน่วยกู้ภัยจึงโรยตัวลงไปนำทั้ง 2 ศพขึ้นมา ทราบชื่อคือ น.ส.ล้วน เจียมวิจิตร อายุ 89 ปี สภาพไม่สวมเสื้อผ้า ที่แขนข้างซ้ายมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งจนหักผิดรูป และนายเจือง เจียมวิจิตร อายุ 85 ปี สภาพศพไม่สวมเสื้อผ้า มีบาดแผลที่หน้าผากเหนือคิ้วขวาถูกตีด้วยของแข็งเป็นรอยยาวไปถึงขมับ และที่ท้ายทอยอีก 2 แผล ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ เป็นพี่น้องกัน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณโคนเสาหน้าบ้าน พบกองเลือดแห้งเกรอะกรังจำนวนมาก และข้างบันไดบ้านพบมีดพร้าวางอยู่ 1 ด้าม ส่วนที่เตียงนั่งเล่นใต้ถุนบ้านมีคราบเลือดกระเซ็นเปรอะเปื้อนหลายจุดทั้งบนพื้นและบนเตียง ที่พื้นใกล้เตียงมีขวานวางอยู่ 1 ด้าม
Advertisement
นอกจากนี้ยังพบร่องรอยลักษณะคล้ายมีคนลากศพเป็นทางจากเตียงไปทิ้งยังบ่อน้ำ ส่วนบนบ้านพบร่องรอยการรื้อค้นสิ่งของกระจุยกระจายไปทั่ว เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่าผู้ตายทั้งสองเป็นพี่น้องกันและอยู่บ้านเดียวกันมานานแล้ว โดยนายเจืองเคยมีภรรยา แต่เลิกรากันไปกว่า 20 ปีแล้ว โดยอดีตภรรยานำลูกชายและหญิง 2 คน ไปเลี้ยงดูด้วย ปัจจุบันอดีตภรรยา อายุ 78 ปี ลูกสาวอายุ 45 ปี และลูกชายอายุ 43 ปี ย้ายไปอยู่อีกตำบล และไม่ได้ไปมาหาสู่กันเลย
เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา นายเจืองขายที่ดินไปกว่า 10 ไร่ ได้เงินมากว่า 2 ล้านบาท และนำเงินฝากไว้ในบัญชีของน้องสาวที่ถูกฆาตกรรมพร้อมกัน ที่ผ่านมาผู้ตายทั้ง 2 คน มักจะอยู่แบบไม่สนใจและไม่สุงสิงกับใคร
วันนี้ช่วงบ่ายมีญาติพี่น้องเดินทางมาจากต่างอำเภอและต่างจังหวัดกว่า 10 คน เพื่อแวะมาเยี่ยมเยือนในช่วงเทศสงกรานต์วันสงกรานต์ กระทั่งพบเป็นศพอยู่ในบ่อน้ำ จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนประเด็นฆาตกรรมอยู่ระหว่างการสอบสวน เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
นายจรัญ สงค์เสือ อายุ 57 ปี หลานของผู้ตาย กล่าวว่า วันนี้ญาติๆ หลายคนได้นัดหมายกันว่าจะมาเยี่ยมและมาไหว้ขอพรทั้งสองคน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าและเป็นอาของทุกคน โดยซื้อของมาฝากด้วย เนื่องจากตลอดระยะกว่า 10 ปี พวกตนไม่เคยได้มาเยี่ยมหาเลย แต่ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้ทุกคนอยากมากราบไหว้ขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ ทั้งสองคนถือเป็นผู้อาวุโสของครอบครัว
นายจรัญ กล่าวต่อว่า เมื่อมาถึงก็พบว่าประตูหน้าบ้านเปิดอ้าอยู่ จึงเรียกตะโกนหา นึกว่าอยู่ในสวน แต่พอมาสังเกตพบคราบเลือดติดอยู่ที่เสาบ้าน พอเดินไปใต้ถุนบ้านก็พบรองเท้าแตะน่าจะเป็นของน้าสาวมีคราบเลือดติดเต็มทั้งสองข้าง และพบหยดเลือดบนเตียงนั่งด้วย เชื่อว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับทั้งสองเป็นแน่
นายจรัญ กล่าวอีกว่า ญาติทุกคนจึงช่วยกันตามหาทั้งในสวนและข้างบ้าน กระทั่งมาถึงบริเวณบ่อน้ำข้างบ้าน ซึ่งมีฝาบ่อที่ทำด้วยไม้ปิดอยู่ พบแมลงวันบินว่อน ยิ่งเข้าใกล้ก็ได้กลิ่นเหม็นคล้ายซากศพโชยมา จึงเชื่อว่าภายในบ่อต้องเป็นศพทั้ง 2 คนแน่ จึงกันไม่ให้ใครไปจับต้อง ก่อนโทรแจ้งตำรวจ
ด้านนางกษิษฐา พัฒลำภู ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 กล่าวว่า ทั้งสองคนอาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้ว ที่ดินของตายายมีประมาณ 10 กว่าไร่ และยังมีที่ดินอีกส่วนหนึ่งอยู่ต่างหมู่บ้าน ส่วนที่อยู่ปัจจุบันเป็นที่ดินตาบอด ต้องอาศัยที่ดินของเพื่อนบ้านเข้าออก ซึ่งตาและยายมักจะมีปัญหากับเจ้าของที่ดินรอบข้างบ่อย และมีเรื่องถึงศาลกันมาแล้ว แต่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดถึงการฆาตกรรมในครั้งนี้
