“นายกฯ” ฮึ่ม เร่งสรุปเหตุเพลิงไหม้ โรงงานเก็บกากสารเคมีบ้านค่าย สั่งเข้ม “ดูแลผลกระทบปชช.-ฟื้นฟูเยียวยา” ถกเครียด “รมว.อุตฯ-ปลัด” เคลียร์ปัญหา ตัวแทนปชช.ร้อง เด้ง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม-อุตสหกรรมจว.แก้ปัญหาไม่คืบ ชูป้าย วอนช่วยทรมาน10 ปี ขอให้โรงงานนรกพ้นพื้นที่

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 เม.ย.ที่บริษัท วินโพรเสส จำกัด ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมคณะ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม มีนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ผู้ว่าระยอง นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 นายจุลษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม หัวหน้าส่วนราชการ รอรับเพื่อรายงานสถานการณ์

โดยผวจ.ระยอง รายงานว่า ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุเพลิงไหม้ เพราะต้องรอให้เปลวไฟสงบ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ทำให้นายกฯสั่งการให้เร่งดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องที่ซีเรียส ส่งผลกระทบต่อประชาชน ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และสั่งการผบช.ภ.2 ตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ ขอให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำหนดวัน และเร่งรัดหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร โดยเจ้าหน้าที่พฐ.ระบุว่า ไฟมักจะไหม้ในช่วง 8 โมงเช้า จากกล้องสามารถเข้าไปถ่ายในที่เกิดเหตุได้เมื่อเช้านี้ คาดว่าจะเป็นต้นเพลิง ตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงได้ แต่มีโอกาสที่ปะทุขึ้นอีก ส่วนการสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัยก่อนจึงจะทราบ

ขณะที่นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เบื้องต้นได้อพยพประชาชน 78 คน จาก 2 ตำบล คือ ต.บางบุตร และหนองบัว ไปศูนย์พักพิง ซึ่งตอนนี้เหลือ 39 คน เป็นผู้ป่วยติดเตียง 4 คน มีอาการเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจ โดยผู้ป่วยที่ติดเตียง ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และอาการไม่ได้เกิดจากการได้รับสารจากเหตุไฟไหม้ หลังเพลิงสงบ จะเข้าไปดูว่ามีสารเคมีใดหลงเหลือบ้าง เพื่อหาวิธีกำจัด

ด้านอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รายงานว่า ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับบริษัท วินโพรเสส จำกัด มาตั้งแต่ปี 2556 ต่อมาในปี 2564 ศาลพิพากษาให้บริษัท กำจัดสารเคมี และจ้างบริษัทเอสเค ให้เริ่มขนย้ายในปี 66 แต่เมื่อหมดสัญญางานยังไม่แล้วเสร็จ กรมอุตสาหกรรม จะเข้ามากำจัดกากเคมีเอง และได้ไปร้องอัยการเพื่อให้ประสานกับศาล ขอแถลงต่อศาลว่ากรมอุตสาหกรรมโรงงาน จะบำบัดเอง

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท เอ็นพีซี ที่มีประสบการณ์ดับไฟจากโรงงานหมิงตี้ 64 เคมิคอล ที่เข้ามาช่วยดับไฟ กล่าวว่า ตอนนี้ควบคุมไฟได้เกือบ 100% แล้วแต่ยังมีไฟที่ต้องกลบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตทับด้วยทราย เพื่อไม่ให้ไฟลุก และป้องกันฝนที่จะตกลงมาในอนาคต โดยจะควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สารเคมีคุกรุ่น เมื่ออะลูมิเนียม ดรอส (สิ่งสกปรก ที่แยกตัวออกมาจากอะลูมิเนียม) เจอกับน้ำ จะทำให้เกิดสารแอมโมเนีย

จากนั้นนายเศรษฐา กล่าวว่าขอให้กระทรวงมหาดไทย และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ดูแลควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่สภาวะปกติ และจัดทำแผนเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม ต.หนองบัว องค์การบริหารส่วนต.บางบุตร และต.หนองบัว เพื่อเป็นข้อมูลในการฟื้นฟูเยียวยา ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชน และรายงานผลให้ทราบ เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน และเร่งนำกากเคมีอันตรายในพื้นที่ไปกำจัดให้ถูกต้อง และเตรียมพร้อมรับมือแก้ปัญหาในช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่ นอกจากนั้นให้กำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน รวมทั้งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด บูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ และจัดทำแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในพื้นที่อื่นอีก และให้กรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการหาผู้กระทำผิดเพื่อมาลงโทษและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บจากสารเคมีอุตสาหกรรมอำเภอบ้านค่ายจังหวัดระยองโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอต้อนรับและรายงานสถานการณ์ มีช่วงหนึ่งนายกฯ ได้ถาม หาอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อยู่ที่ไหน​ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ​ มีการลงพื้นที่มาก่อนหน้านี้เมื่อไหร่​ โดยอธิบดีกรมโรงงานฯ ตอบว่ามาเมื่อเช้าวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้นายกฯถามกลับว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อไหร่ ทำไมจึงใช้ระยะเวลานานกว่าจะลงพื้นที่ เป็นอธิบดีกรมโรงงานน่าจะมาให้ไวกว่านี้​ เพราะนี่เป็นเรื่องซีเรียส หากมีข้อสันนิษฐานว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าสาเหตุเกิดจากอุณหภูมิ​ที่สูง​ จึงขอฝากให้ไปดูต่อด้วยก็แล้วกัน ว่าโรงงานอื่นในลักษณะเช่นนี้ ช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิสูงมาก หากเป็นไปได้อยากให้ตรวจสอบให้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับฟังสรุปสถานการณ์ นายกฯพร้อมน.ส.พิมพ์ภัทรา นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงอุตฯ ได้แยกวงหารือประมาณ 5 นาที โดยนายกฯมีสีหน้าเคร่งเครียด

จากนั้นก่อนเดินทางกลับ นายกฯเดินมารับหนังสือจากตัวแทนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเรียกร้องให้นายกฯนำผู้เชี่ยวชาญแก้ไขปัญหา และให้นำกากสารเคมีไปทำลายนอกพื้นที่ รวมถึงพิจารณาย้ายอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัด เนื่องจากเคยเรียกร้อง ให้แก้ปัญหาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างขบวนรถนายกฯเดินทางออกจากโรงงาน กลุ่มชาวบ้านได้ชูป้ายข้อความขอให้นายกฯช่วยเหลือ อาทิ “เอาโรงงานนรกออกไป”, “ให้นำขยะพิษเหล่านี้ออกไปจากหนองพะวา” , “นายกฯ มาทั้งทีมีเวลาให้ชาวบ้านแค่ 30 นาที” , “ วอนนายกฯ ช่วยที 10 ปีแสนทรมาน”เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน