การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 คู่ที่สามประจำค่ำคืน 16 มิ.ย. เดนมาร์ก ลงสนามนัดแรกกลุ่มซี พบ เปรู ยอดทีมจากอเมริกาใต้

สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของเปรู กลับไม่มีชื่อของ เปาโล เกร์เรโร่ กองหน้าตัวเก่งจากฟลาเมงโก

สำหรับเปรูในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย: เปโดร กาเยเซ – หลุยส์ อัดบินกูลา, อัลเบร์โต โรดริเกซ, คริสเตียน รามอส, มิเกล เตราโก – เรนาโต ตาเปีย, โยชิมาร์ โยตุน – อังเดร การ์ริโญ, คริสเตียน กูเอบา, เอดิสัน ฟลอเรส – เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน

ขณะที่เดนมาร์ก มาเต็มในระบบ 4-3-3 นำโดย : แคสเปอร์ ชไมเคิล – เฮนริก ดัลส์การ์ด, ไซมอน เคียร์, อันเดรียส คริสเตียนเซน, เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซน – วิลเลียม ควิสต์, คริสเตียน อีริกเซน, โธมัส เดลานีย์ – ยูสซูฟ โพลเซน, นิโคไล ยอร์เกนเซน, ปิโอเน ซิสโต

เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดแลกกันสนุก ต่างหาโอกาสจบสกอร์อย่างได้ลุ้นหลายจังหวะ นาที 35 เดนมาร์กต้องจำใจเปลี่ยนตัวผู้เล่น เมื่อ วิลเลียม ควิสต์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก จากจังหวะปะทะกับ เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟา ทำให้ อาเก ฮาไรเด กุนซือเดนมาร์ก ต้องเอา ลาสเซ โชน ลงมาปั้นเกมตรงกลางแทน

เกมทำท่าจะมีประตูเกิดขึ้นเมื่อนาที 44 ยูสซูฟ โพลเซน ไปเกี่ยว คริสเตียน กูเอบา ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินได้สัญญาณจากวีดิโอช่วยตัดสิน หรือวีเออาร์ เป่าเป็นจุดโทษ ก่อนที่ กูเอบา จะลุกขึ้นมาสังหารเอง แต่สุดท้ายกลับยิงข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังผลัดกันรุกรับอย่างสนุก นาที 59 แฟนเดนมาร์ก ได้เฮกันลั่น จากจังหวะสวนกลับที่ คริสเตียน อีริกเซน พาบอลขึ้นมาจากกลางสนาม ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ ยูสซูฟ โพลเซน หลุดเข้าไปยิงเป็นประตูขึ้นนำ 1-0

หลังโดนนำเปรู พยายามบุกทวงประตูคืน นาที 61 กูเอบา ได้จังหวะยิงโ่ล่งในกรอบเขตโทษ แต่ยังถูกปฏิเสธ โดย แคสเปอร์ ชไมเคิล

ช่วงเวลาที่เหลือ เปรู ยังโหมบุกหนัก แต่สุดท้ายยังเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิล ที่โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟ ได้ทั้งหมด จบ 90 นาที เดนมาร์ก เฉือนชนะ เปรู 1-0 เก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน