ศึกฟุตบอลโลก 2018 คู่สุดท้ายของคืนวันที่ 16 มิ.ย. ที่สนามคาลินินกราด สเตเดี้ยม เป็นการแข่งขันในกลุ่มดี โครเอเชีย ลงสนามนัดแรกพบ ไนจีเรีย โดยทั้งสองทีมยังไม่เคยพบกันมาก่อนในฟุตบอลโลก
สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของโครเอเชีย ประกอบด้วย ดานิเยล ซูบาซิช, ซิเม เวอร์ซัลจ์โก, อิวาน สตรินิช, อิวาน เปริซิช, เดยัน ลอฟเรน, อิวาน ราคิติช, อังเดร ครามาริช, ลูกา โมดริช, มาริโอ มานด์ซูคิช, อันเต เรบิช, โอมากอย วิดา
ส่วนไนจีเรีย เลือกใช้งาน ฟรานซิส อูโซโฮ, ไบรอัน อิโดวู, วิลเฟรด เอ็นดิดี, วิลเลียม ทรูสท์ เอก็อง, ลีออน บาโลกัน, โอเกเนคาโร เอเตโบ, โอดิออน อิกฮาโล, จอห์น โอบี มิเกล, วิกเตอร์ โมเซส, เชฮู อับดุลลาฮี, อเล็กซ์ อิโวบี
เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กันสูสี ก่อนจะมีประตูเกิดขึ้นในนาที 32 โครเอเชีย ได้เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเป็น โอเกเนคาโร เอเตโบ สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ให้โครเอเชีย ขึ้นนำ 1-0
จากนั้นไนจีเรีย พยายามบุกทวงประตูคืน แต่ยังทำได้เพียงหวาดเสียเท่านั้น จบครึ่งแรก โครเอเชีย นำ ไนจีเรีย 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง 60 นาทีผ่าน ไนจีเรีย เป็นฝ่ายครองบอลบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่โครเอเชีย ยังช่วยกันได้ดี เล่นอย่างรัดกุม จึงยังรักษาสกอร์นำไว้ได้
จากนั้นนาที 70 โครเอเชีย มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ วิลเลียม ทรูสท์-เอก็อง ไปล็อก มาริโอ มานด์ซูคิช ในกรอบเขตโทษ ก่อนเป็น ลูกา โมดริช ที่ซัดเข้าไปไม่เหลือให้ โครเอเชีย ขยับหนีเป็น 2-0
ช่วงเวลาที่เหลือ ไนจีเรีย พยามบุกทวงประตูคืน แต่สุดท้ายไม่สามารถเจาะเกมรับโครเอเชียได้ จบเกม โครเอเชีย ชน ไนจีเรีย 2-0 ทำให้ โครเอเชีย ขึ้นนำ จ่าฝูงกลุ่มดี มี 3 คะแนน
