พระเทพญาณมงคล “หลวงป๋า”วัดหลวงพ่อสดฯ #มงคลข่าวสด
พระเทพญาณมงคล / คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวเมืองราชบุรี ได้ถึงวาระกาลสูญเสียครั้งใหญ่ ด้วย พระเทพญาณมงคล หรือ ที่ชาวบ้านเรียกขานด้วยความเคารพว่า “หลวงป๋า” พระเถระชื่อดัง ละสังขารอย่างสงบด้วยภาวะหัวใจวาย เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2561 ระหว่างการเดินทางไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลดำเนินสะดวก โดยอาการทรงและทรุดมาตลอด จนสุดความสามารถของคณะแพทย์
สร้างความเศร้าสลดอาลัยเป็นอย่างยิ่ง
พระเทพญาณมงคล ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
มีนามเดิมว่า เสริมชัย พลพัฒนาฤทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2472 ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
จบการศึกษา รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าทำงานเป็นพนักงานต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐ ประจำอยู่ที่สำนักข่าวสารอเมริกัน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญฝ่ายการวิจัย
เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2529 ที่พัทธสีมา วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มี สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินธโร) วัดสามพระยา กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์, สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ (เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมคุณาภรณ์) เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ (เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมธีรราชมหามุนี) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ชยมังคโล
ศึกษาพระปริยัติจากสำนักเรียนวัดปากน้ำภาษีเจริญ พ.ศ.2531 สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ พ.ศ2537 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค
หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งวัดหลวงพ่อสดธรรมกายารามขึ้นในวันที่ 9 ก.ค.2534 ขณะที่ท่านอายุ 62 ปี พรรษาที่ 5 จึงได้รับได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2534 เป็น เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม พ.ศ.2539 เป็นพระอุปัชฌาย์
ผลงานด้านการศึกษา พ.ศ.2534 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม และเป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวง พ.ศ.2540 เป็นกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ.2541 เป็นวิทยากรบรรยายถวายความรู้พระสังฆาธิการในเขตภาค 15 เรื่องหลักการบริหารวัดและการจัดทำแผนและโครงการ พ.ศ.2561 เป็นรองศาสตราจารย์พิเศษ ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี
งานเผยแผ่ พ.ศ.2551 เป็นประธานศูนย์ประสานงานสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแห่งประเทศไทย (ศปท.) สนญ. วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระภาวนาวิสุทธิคุณ วิ.
พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระราชญาณวิสิฐ
พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระเทพญาณมงคล
เกียรติคุณ พ.ศ.2550 ได้รับถวายพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) สาขาการจัดการเชิงพุทธ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ.2552 ได้รับถวายศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) สาขาพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
ท่านมีผลงานทางวิชาการ อาทิ นิพพาน 3 นัย, อริยสัจ 4, ตอบปัญหาธรรมปฏิบัติ, หลักสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน, ธรรมะคุณภาพเพื่อชีวิต, โพธิปักขิยธรรม เป็นต้น
ในปี พ.ศ.2549 ท่านได้จัดตั้งวิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรไปจนถึงระดับปริญญาโท ในสาขาสังคมศาสตร์และพระพุทธศาสตร์ รวมไปถึงทางวัดได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์ประสานงานสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแห่งประเทศไทย และสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดราชบุรี ซึ่งมุ่งเน้นสืบทอดวิชาธรรมกายจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
ปัจจุบันวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม กำลังมีโครงการก่อสร้าง “พระมหาเจดีย์สมเด็จฯ” ซึ่งเป็นอาคารทรงจัตุรมุข 4 ชั้น มีความกว้าง ความยาว และความสูง 108 เมตร จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นปูชนียสถานสำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตธาตุสำคัญ ที่ปรากฏขึ้น ณ วัดหลวงพ่อสดฯ ไว้ให้เป็นที่สักการบูชาของพุทธศาสนิกชน
ตราบจนลมหายใจสุดท้ายได้ดับลง เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 7 ต.ค.2561 สิริอายุ 90 ปี พรรษา 32 ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของคณะสงฆ์และ ลูกศิษย์ที่ติดตามเฝ้าอาการ
นับแต่นี้ คงเหลือไว้แต่คุณงามความดี ให้อนุชนรุ่นหลังได้กล่าวขวัญ
#มงคลข่าวสด