อริยะโลกที่ 6 : หลวงปู่สอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี นครพนม

อริยะโลกที่ 6 – หลวงปู่สอ ขันติโกวัดโพธิ์ศรี .รามราช .ท่าอุเทน .นครพนม เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน

เป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุท่าอุเทน .ท่าอุเทน .นครพนม พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำสองฝั่งโขงไทยลาว พระเกจิผู้นำในการสร้างพระธาตุท่าอุเทน และพระธาตุบัวบก .บ้านผือ .อุดรธานี อยู่ในศรัทธาของสาธุชนเขต .นครพนม และพื้นที่ใกล้เคียง

ปัจจุบันสิริอายุ 113 ปี ถือได้ว่าเป็นพระเถระที่อายุพรรษามากที่สุดรูปหนึ่งของคณะสงฆ์เมืองนครพนม

เกิดในตระกูลชาวนา เมื่อวันจันทร์ ปีมะเส็ง ..2448 ตามคำบอกเล่าของผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ ระบุว่า เกิดเมื่อวันที่ 20 ..2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ท่านเป็นชาวบ้านบ้านบะหว้า หมู่ 10 .รามราช .ท่าอุเทน .นครพนม

เมื่อแรกเกิดแม่ของท่านบอกว่า บุตรชายมีสายรกพันคอ จะได้บวช

ส่วนชีวิตในวัยเด็ก เป็นคนที่เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดกับเด็กอื่นวัยเดียวกัน

ท่านมีโอกาสเข้ากราบนมัสการหลวงปู่ สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงขอติดตามไปยังภูเขาควายฝั่งลาวและได้บวชเป็นสามเณร คอยรับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่สีทัตถ์ เล่าเรียนสรรพวิชาต่างๆ จากท่าน

กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์เข้าพิธีอุปสมบท โดยมีหลวงปู่สีทัตถ์เป็นพระอุปัชฌาย์

อยู่รับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่สีทัตถ์เป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงได้ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขา ถ้ำภูผาต่างๆ จนได้ทราบข่าวอาการป่วยของโยมแม่ ในขณะนั้นอายุ 32 ปี พรรษา 12 จึงรีบเดินทางมาดูแลแม่ผู้ให้กำเนิด ลาสิกขาออกมาดูแลแม่จนถึงวาระสุดท้าย

ในเวลาต่อมาจึงขอเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง

เป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัย วัตรปฏิบัติดี ด้วยความที่มีจิตใจแน่วแน่ในการแสวงหาทางหลุดพ้นตามรอยตถาคต จึงได้ออกเดินธุดงค์ เสริมสร้างบารมีธรรมไปยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขาในเขตพื้นที่ภาคอีสาน

ครั้งนั้นออกธุดงค์ข้ามไปยังฝั่งลาว บ้านบุ่ง ท่านจำพรรษาเพื่อพัฒนาวัดบ้านบุ่งอยู่หลายปี ก่อนออกเดินทางไปพบหลวงปู่สีทัตถ์อีกครั้ง เฝ้าอุปัฏฐากอยู่กับท่าน จนกระทั่งหลวงปู่ สีทัตถ์มรณภาพ

หลังจากนั้นท่านกลับมาที่ฝั่งไทย จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า .รามราช ในขณะนั้นยังมีครูบาอาจารย์ที่เป็นทั้งสหธรรมิกและศิษย์ผู้พี่หลายท่าน อาทิ หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้ว ศิษย์ผู้ใหญ่ในหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน ซึ่งมีศักดิ์เป็นศิษย์ ผู้พี่ของท่าน, หลวงปู่คาร คันธิโย, หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม .เมือง .นครพนม ขอศึกษากับท่านอยู่เป็นระยะ

หลวงปู่สอเป็นพระเกจิที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน ที่ยังดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย แม้อายุจะล่วงมาถึง 113 ปี แต่สายตายังมองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ สนทนากับญาติโยมได้สบาย ฉันภัตตาหารเนื้อปลา ยอดผักสด กล้วยน้ำว้าวันละ 1 ลูก ภัตตาหารทุกอย่างท่านฉันได้หมด ด้วยเหงือกฟันยังแข็งแรงอยู่ครบเต็มปาก จะเน้นฉันเฉพาะจังหันเป็นส่วนใหญ่ หากวันไหนเหนื่อยล้าจะฉันเพลบ้างเล็กน้อย

ส่วนเคล็ดลับที่ท่านมีอายุยืนยาว หลวงปู่สอเคยบอกเล่าให้ฟังว่า ใช้วิชาปั่นธาตุ ซึ่งหมายถึงการนั่งภาวนาจิตสลับธาตุดินน้ำลมไฟ ในร่างกาย เชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บในตัวได้

ด้านการสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่สอ ไม่ได้จัดสร้างบ่อยนัก นานครั้งในวาระพิเศษจึงจะมีการจัดสร้างสักครั้งหนึ่ง ท่านจะเน้นคำสอนให้ลูกศิษย์นำไปปฏิบัติมากกว่า แต่จะอนุญาตให้ศิษย์ใกล้ชิดสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้วัตถุมงคลของท่านมีจำนวนไม่มากนัก แต่ปรากฏว่าได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

แม้ท่านจะอยู่ในช่วงปัจฉิมวัย แต่สภาพร่างกายยังคงแข็งแรง ดังนั้น จึงยังรับกิจนิมนต์เป็นปกติ

โดย : ชนะ วสุรักคะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน