สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ

คอลัมน์ มงคลข่าวสด

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ – พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริ สมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า

โดยที่ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึง สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ที่ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์มีพระคุณูปการอย่างยิ่งแด่พระองค์ เมื่อคราวทรงผนวช ได้ถวายพระโอวาทานุศาสน์ให้ทรงเข้าพระราชหฤทัยในหลักพระพุทธศาสนาอย่างซาบซึ้ง และยังทรงเป็นสมเด็จพระอุปัชฌายะของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกพระองค์ปัจจุบัน

นับว่าทรงดำรงอยู่ในฐานะอภิปูชนียบุคคลแห่งพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระสังฆราชผู้ทรงเป็นศิษย์ ทรงยินดีในเนกขัมมปฏิบัติเป็นอจลพรหมจริยาภิรัตยั่งยืนนานตลอดพระชนมชีพ ทรงกอปรด้วยพระศีลาจารวัตรบริสุทธิ์บริบูรณ์มิหวั่นไหวต่อโลกามิส ทั้งพระฉันทจริตก็เพียบพูนด้วยสมณคุณธรรม ยากจะหาผู้ใดเสมอ ทรงพระปรีชาญาณยิ่งยวดในการประพันธ์ ทรงพระสุตญาณลึกซึ้งสามารถในธรรมวิจารณธรรมวินิจฉัยได้ถูกต้องเด็ดขาด ทรงบริหารคณะสงฆ์ และการพระศาสนาให้เจริญก้าวหน้ามาโดยลำดับ

ในที่สุด ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกนานถึง 14 ปี ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจใหญ่น้อย เพื่อยังประโยชน์แก่พุทธจักรและอาณาจักรอย่างไพศาล

แม้เสด็จสิ้นพระชนม์ไปแล้วนับแต่วันที่ 27 สิงหาคม พุทธศักราช 2531 แต่พุทธบริษัททุกหมู่เหล่าก็ยังเฝ้ารำลึกถึงพระเดชพระคุณอยู่มิเสื่อมคลาย และบัดนี้ได้เป็นที่ประจักษ์ว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นคารวสถานปูชนียเจดีย์แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดถึงมวลพุทธบริษัททั่วสกลราชอาณาจักร สมควรจะสถาปนาพระเกียรติยศพระอัฐิขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง เพื่อเป็นศรีศุภมงคลแด่พระบวรพุทธศาสนา และเป็นที่เฉลิมพระราชศรัทธาสืบไป

จึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาพระอัฐิ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช ขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ธรรมาภรณคุณวิจิตรปฏิภาณ สุขุมธรรมวิธานธำรง อริยวงศาคตญาณวิมล สกลมหาสังฆปริณายก ตรีปิฎกคัมภีรญาณบัณฑิตวชิราลงกรณนริศหิโต ปัธยาจารย์ วาสนภิธานสังฆวิสุต พุทธบริษัทคารวสถาน นิทัศนนิทาน นิพนธปรีชาปาวจนุตตมโสภณ ภัทรผลสาธารณูปการวิบุลศีลสมาจารวัตรสุนทร สรรพคณิศรมหาสังฆาธิบดี ศรีสมณุดม บรมบพิตร

สําหรับพระนามเดิม วาสน์ นิลประภา ประสูติเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2440 เวลา 19.33 น. ที่บ้าน ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ บาง มารดาชื่อ ผาด เป็นบุตร คนที่ 1 ในจำนวน 3 คน

บรรพชา เมื่ออายุ 16 ปี ณ วัดราชบพิธฯ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2455 พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยมุนี (แปลก วุฑฒิญาโณ) วัดราชบพิธฯ เป็นพระศีลาจารย์

อุปสมบท ณ วัดราชบพิธฯ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2461 มีพระเจ้า วรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยมุนี (แปลก) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระญาณดิลก (รอด วราสโย) วัดเสนาสนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระศีลาจารย์ มีพระฉายาว่า “วาสโน”

พ.ศ.2491 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ทรงดำรงสมณศักดิ์ พ.ศ.2517 พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ทรงมีคุณูปการแก่พระพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนเป็นอเนกอนันต์ สมัยที่ยังทรงพระชนม์ เสด็จไปทรงบำเพ็ญศาสนกิจ เพื่อเจริญศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนในที่ต่างๆ โดยมิได้ว่างเว้น

วันเสาร์ที่ 27 ส.ค.2531 สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชันษา 90 ปี 5 เดือน 25 วัน

วันพระราชทานเพลิงวันที่ 18 มี.ค.2532

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ถวายราชสักการะพระอัฐิ ‘สมเด็จพระสังฆราชเจ้า’

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน