คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

น้าชาติ ประชาชื่น [email protected]

ขอทราบประวัติความเป็นมาของพระสัมพุทธพรรณีที่ทรงสักการะในพระราชพิธีสำคัญ

นุ้ย

ตอบ นุ้ย

พระสัมพุทธพรรณี เป็นพระพุทธรูปสำคัญอีกองค์หนึ่งของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถวัดพระศรี รัตนศาสดาราม

นอกจากนี้ ยังมีพระสัมพุทธพรรณี องค์จำลอง ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร จำลองจากพระสัมพุทธพรรณีองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

พระสัมพุทธพรรณีเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประทับขัดสมาธิราบ หล่อด้วยโลหะสำริดและกะไหล่ทองคำสุกปลั่ง มีขนาดหน้าตักกว้าง 49 เซนติเมตร ความสูงถึงยอดพระรัศมี 67.5 เซนติเมตร ความสูงจากฐานถึงยอดพระรัศมี 93 เซนติเมตร และความสูงจากฐานถึงยอดฉัตร 206 เซนติเมตร

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งดำรงสมณเพศเป็นพระวชิรญาณภิกขุ โปรดให้หล่อขึ้นขณะประทับอยู่ที่วัดสมอราย (วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร) จากที่ทรงทุ่มเทพระอุตสาหวิริยะศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างแตกฉานลึกซึ้ง และได้ทรงศึกษาพุทธลักษณะของการสร้างพระพุทธรูป ทรงพบว่าพระพุทธรูปควรมีพุทธลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์ทั่วไป การที่นายช่างในอดีตทั้งหลายพากันสร้างพระพุทธรูปให้มีโหนกนูนขึ้นเหนือพระเศียรคล้ายครึ่งวงกลม และเรียกว่าพระเกตุมาลานั้น ผิดไปจากความเป็นจริง แม้นายช่างในอดีตจะอธิบายว่า เพราะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้รู้แจ้งด้วยพระองค์เอง ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ดังนั้น จึงต้องทรงมีพระสติปัญญาสูงส่งกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไปเป็นอย่างมาก ดังนั้น มันสมองของพระพุทธองค์จึงดันเอากะโหลกพระเศียรให้ปูดนูนสูงขึ้น ข้อนี้เป็นที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในพุทธลักษณะ

ด้วยเหตุดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2373 พระวชิรญาณภิกขุ จึงได้ทรงพระกรุณาฯ ให้ ขุนอินทรพินิจ เจ้ากรมช่างหล่อปั้นหล่อพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะตามที่ทรงศึกษามา และให้มีพุทธลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์ธรรมดามากที่สุด

โดยให้มีพระเศียรส่วนบนเรียบเกลี้ยง ไม่มีโหนกนูนหรือพระเกตุมาลาตั้งอยู่บนกลางพระเศียรอย่างที่เคยสร้างกันมา กับทั้งลักษณะการครองผ้าจีวรของพระพุทธรูป ก็ให้มีลักษณะตามแบบธรรมยุติกนิกายตามที่ได้ทรงบัญญัติไว้ และให้มีริ้วรอยกลีบของผ้าจีวรยับพับไปมาตามแบบธรรมชาติทุกประการ

พระพุทธรูปองค์ดังกล่าว สร้างตามอย่างพุทธลักษณะที่พระองค์ทรงสอบสวนได้ ด้วยพระราชศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะให้พระพุทธรูปนี้เป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรรจุแผ่นทองคำจารึกดวงพระพรรษาและแผ่นพระสุพรรณบัฏทองคำจารึกพระนามเต็มที่ได้รับพระราช ทานจากพระราชบิดา คือรัชกาลที่ 2 เมื่อแรกเสด็จพระราชสมภพ รวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุที่ได้แสดงปาฏิหาริย์เฉพาะพระพักตร์ให้ได้ทรงประจักษ์ด้วยสายพระเนตรของพระองค์เองลงไว้ในองค์พระพุทธรูปองค์นี้ด้วย และถวายนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระสัมพุทธพรรณี”

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ หอสวดมนต์วัดราชาธิวาสวิหาร เพื่อทรงนมัสการ ครั้นเมื่อเสด็จฯ ไปประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสัมพุทธพรรณีไปยังวัดบวรนิเวศวิหารด้วย จนเมื่อเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยประดิษฐานอยู่ที่ฐานชุกชีด้านหน้าขององค์พระแก้วมรกต

ฉบับพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) ติดตามที่มาแห่งการจัดสร้างพระ สัมพุทธพรรณีองค์จำลอง ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วัดราชา ธิวาสราชวรวิหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน