คอลัมน์ อริยะโลกที่6

“จงบำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญาให้เป็น อธิศีล อธิสมาธิ อธิปัญญา” ธรรโมวาท หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา หนึ่งในพระป่ากัมมัฏฐาน ในฐานะแม่ทัพธรรมสาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่สาธุชนให้ความเลื่อมใสศรัทธายิ่ง

มีนามเดิมว่า สิงห์ บุญโท เกิดเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2432 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู ที่บ้านหนองขอน ต.หัวทะเล อ.อำนาจ เจริญ จ.อุบลราชธานี บิดาชื่อ อ้วน บุญโท เป็นข้าราชการหัวเมืองลาวกาว-ลาวพวน มีหน้าที่จัดการศึกษาและการพระศาสนา มารดาชื่อ นางหล้า บุญโท

พ.ศ.2446 บรรพชา ที่วัดบ้านหนองขอน ต.หัวทะเล อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี

จนเมื่ออายุครบบวช อุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดสุทัศน์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2452 มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) สมัยเมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่พระศาสนดิลก เจ้าคณะมณฑลภาคอีสาน เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้เข้าถวายตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และได้ฝึกอบรมสมาธิภาวนากัมมัฏฐานอยู่กับหลวงปู่มั่น

เนื่องจากท่านเป็นศิษย์ที่ได้รับความไว้วางใจจากท่านหลวงปู่มั่นเป็นอย่างมาก หลวงปู่มั่นจึงได้แยกย้ายให้ไปอบรมสั่งสอนประชาชน

หลวงปู่สิงห์เป็นพระที่สามารถให้อุบายธรรมแก่บรรดาลูกศิษย์ โดยไม่ว่าผู้ใดติดขัดปัญหาธรรมแล้ว ท่านจะแนะนำอุบายให้พิจารณาจนกระจ่าง บางโอกาสท่านต้องรับภาระหน้าที่แทนหลวงปู่มั่น นับว่าหนักหนาพอสมควรทีเดียว

ต่อมา หลวงชาญนิคม ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเลื่อมใสในพระธุดงค์กัมมัฏฐานมาก มีประสงค์เป็นอย่างยิ่งที่จะฟื้นฟูจังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นศูนย์รวมของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงได้นิมนต์หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม ให้ไปช่วยสร้างวัดป่าสาลวัน เพื่อเป็นวัดป่าตัวอย่างของฝ่ายวิปัสสนาธุระ

หลวงปู่สิงห์ได้มีโอกาสพบกับสหธรรมิก ซึ่งต่อมาเป็นพระเถระผู้ใหญ่แห่งจังหวัดสุรินทร์ คือ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ท่านเกิดชอบอัธยาศัยไมตรีของหลวงปู่ดูลย์ จึงจัดการช่วยเหลือพระสหาย ได้ญัตติเป็นพระธรรมยุติกนิกาย เป็นผลสำเร็จเมื่อปี พ.ศ.2461

พ.ศ.2463 หลวงปู่สิงห์เดินธุดงค์ผ่านมาพักจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านนาสีดา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง มีความเคารพนับถือพระอาจารย์สิงห์มากเป็นพิเศษ เข้ามารับใช้อุปัฏฐากทุกสิ่งอย่าง เด็กหนุ่มคนนั้นคือ หนุ่มเทสก์ เรี่ยวแรง ซึ่งก็คือ พระราชนิโรธรังสี คัมภีร์ปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) ในขณะนั้นมีอายุ 16 ปี

ท่านมองเห็นบุญญาธิการของหลวงปู่เทสก์ตั้งแต่แรกพบ เมื่อคณะธุดงค์ของท่านจะออกจากวัดบ้านนาสีดา หลวงปู่ เทสก์ (ในขณะนั้นคือ หนุ่มเทสก์ เรี่ยวแรง) ขอติดตาม พระอาจารย์ไปด้วย

หลวงปู่สิงห์ จึงให้ไปขออนุญาตบิดามารดาเสียก่อน และก็ได้เป็นไปตามสภาพกุศลเกื้อกูลทุกประการ ท่านได้พาคณะธุดงค์เดินตัดตรงไปทางอ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้พักจำพรรษาโดยปักกลดในบริเวณป่าช้าแห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบัน กลายเป็นแหล่งปฏิบัติสมาธิภาวนาธรรมชื่อว่า “วัดป่าอรัญญวาสี” อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ท่านได้พร่ำสอนลูกศิษย์รัก ให้รู้จักเจริญพรหมวิหารธรรม ต่อมาท่านมอบหมายให้พระอาจารย์ลุย เป็นพระอุปัชฌาย์ บรรพชาสามเณรเทสก์ขึ้นที่วัดบ้านเค็งใหม่ จ.อุบลราชธานี

ในการทดแทนพระคุณอันสูงล้ำของบิดามารดา หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม ได้เดินทางไปโปรดบิดา มารดา จนมีจิตใจแจ่มใสเบิกบานในธรรม ท่านได้ให้บิดา มารดา เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน โดยการแนะนำไปทีละน้อยๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของบุตรพึงกระทำเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2500 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในราชทินนาม พระญาณวิศิษฎ์สมิทธิวีราจารย์

ในบั้นปลายชีวิต เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2507 เวลา 10.20 น. จึงละสังขารจากไป ด้วยอาพาธด้วยโรคมะเร็งเรื้อรังในกระเพาะอาหาร ณ วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา สิริอายุ 73 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน