“พระราชปริยัติกิจ” (ผล ผลิตธัมโม) เจ้าอาวาสวัดพรหมวงศาราม แขวงทุ่งพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ พระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และยังเป็นพระนักพัฒนา นักการศึกษา ท่านอุทิศตนอบรมเทศนาสั่งสอนญาติโยมอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชน
ปัจจุบัน สิริอายุ 82 ปี พรรษา 62 มีนามเดิม ผล พลอยล้วน เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2478 ที่หมู่ที่ 14 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ช่วงวัยเด็ก
สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดมงคล พุการาม ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แล้วจึงช่วยงานบิดามารดาทำนาจวบจนอายุ 20 ปีบริบูรณ์
จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทตามประเพณี เมื่อวันเสาร์ที่ 30 เม.ย.2498 ที่พัทธสีมาวัดตะวันเรือง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีพระครูพินิจธัญโสภณ วัดผลาหาร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการสังวาล วัดตะวันเรือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระจำรัส คันธสีโล วัดผลาหาร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ภายหลังอุปสมบท ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดมงคลพุการาม ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมจนสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก
มีความขยันหมั่นเพียรในการศึกษาหาความรู้อย่างมาก อีกทั้งยังสามารถสวดท่องจำพระปาติโมกข์ตั้งแต่พรรษาแรก
ต่อมาย้ายมาจำพรรษาที่วัดพุฒิปรางค์ปราโมทย์ ใน จ.นนทบุรี นาน 3-4 พรรษา เพื่อสะดวกในการลงเรือไปเรียนบาลีที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ
แต่ด้วยการเดินทางที่ยากลำบากมากในสมัยนั้น เพราะหน้าฝน น้ำท่วมหนัก ต้องพายเรือบ้าง เดินลุยน้ำบ้าง ไปเรียนหนังสือ ในปี พ.ศ.2507 จึงย้ายมาจำพรรษาที่วัดกุนนทีรุทธาราม (วัดห้วยขวาง) ถึง 9 พรรษา
ด้วยความวิริยอุตสาหะช่วยกิจการงานคณะสงฆ์ด้วยดีมาตลอด จนได้รับความไว้วางใจ พ.ศ.2516 ได้แต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกุนนทีรุทธาราม เป็นพระคู่สวด และเป็นพระครูใบฎีกา ฐานานุกรมในพระมงคลทิพยมุนี (เมี้ยน ปภัสสโร) และในปีเดียวกัน ท่านจึงได้รับมติคณะสงฆ์เขตพญาไท แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพรหม วงศาราม
นับได้ว่าเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก จวบจนถึงปัจจุบัน
เมื่อท่านเข้ามาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้นยังไม่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างทุกวันนี้ แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระนักพัฒนา ไม่หยุดนิ่ง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคนในพื้นที่ ท่านได้นำพาญาติโยมชาวดินแดง-ห้วยขวาง ก่อสร้างเสนาสนะถาวรวัตถุ อาทิ ศาลาอเนกประสงค์ ศาลาธรรมสังเวช กุฏิที่พักสงฆ์ นำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดอย่างรวดเร็ว
ด้านของการศึกษา ท่านให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ได้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรม-บาลี เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้พระภิกษุสามเณรได้มีสถานที่ศึกษาหาความรู้ทางธรรม โดยมี พระมหาจันทร์แก้ว จันทรตโน (ปัจจุบัน คือ พระมงคลรัตนาภรณ์) เป็นอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนรูปแรก
พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระโกศลปริยัติกิจ และ ในปี พ.ศ.2553 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชในราชทินนามที่ พระราชปริยัติกิจ
ท่านเป็นพระผู้เปี่ยมด้วยเมตตาพรหมวิหารธรรม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของศิษยานุศิษย์
วัดพรหมวงศาราม เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง มีพระภิกษุ-สามเณรจำพรรษา ร่วม 100 รูป
ในวันพระมีญาติโยมเข้ารักษาศีลอุโบสถจำนวนมาก มีการสวดสาธยายเปิดสอนพระไตรปิฎกตลอดทั้งปี
อีกทั้งยังเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมประจำกรุงเทพมหานครแห่งที่ 6 ด้วย