จากกรณีที่นางเจี้ยว อุปัจชา อายุ 70 ปี ร้องเรียนสื่อมวลชน หลังถูกตำรวจ สภ.สากเหล็ก จ.พิจิตร เรียกรับเงินจำนวน 3 หมื่นบาท เพื่อเป็นค่ารับรถจยย.คืน หลังลูกชายของนางเจี้ยว ขี่หลบหนีตำรวจแล้วนำไปจอดไว้ที่บ้าน กระทั่งตำรวจตามไปยึดมาไว้ที่ป้อมตำรวจสายตรวจสากเหล็ก แทนที่จะเอาไปไว้โรงพัก และอ้างว่าเจอยาบ้าตกอยู่ข้างรถ 30 เม็ด หลังจากนั้นนางเจี้ยว ก็ได้นำเงินไปจ่ายเพื่อรับรถคืน ระหว่างนั้นหลานที่ไปด้วยได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ตำรวจจึงจับกุมในข้อหาติดสินบน ต่อมา พล.ต.ต.ธวัธชัย มวลนรา ผบก.ภ.จว.พิจิตร สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบ และย้ายตำรวจทั้ง 2 นาย มาช่วยราชการที่ ภ.จว.พิจิตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ยายร่ำไห้! โดน ตร.รีดเงิน 3 หมื่นแลกรถจยย.คืน พอเอามาให้กลับถูกจับข้อหาติดสินบน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 เม.ย. พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.สภ.สากเหล็ก กล่าวว่า คดีของนางเจี้ยว นั้นมีการสอบปากคำเกือบเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งอีก 2-3 วันน่าจะส่งฟ้องได้ โดยถูกแจ้งข้อหาร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน และจับตามพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมส่งมาให้ ซึ่งตนก็ได้เรียกนางเจี้ยว มาพบพร้อมทั้งแนะนำว่าถ้ามีหลักฐานอะไร ก็สามารถนำไปแสดงต่อศาลได้ เพื่อที่จะให้ศาลเมตตา ในส่วนของคดีก็ต้องดำเนินต่อไป
พ.ต.อ.ธนิสร กล่าวอีกว่า หลังจาก พล.ต.ต.ธวัธชัย ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.สุริยา ชารีนิวัตร และ ด.ต.มงคล หมีเปลี่ยน ไปช่วยราชการที่ ภ.จว.พิจิตร โดยขาดจากที่ตำแหน่งเดิม เนื่องจากไม่ต้องการให้ไปยุ่งเหยิงกับพยาน หลักฐานต่างๆ พร้อมกับให้ไปรายตัวกับต้นสังกัดใหม่ทันที
พ.ต.อ.ธนิสร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ตนรู้ก่อนที่สื่อมวลชนจะลงข่าว เนื่องจากหลานของ นางเจี้ยว ได้ไปร้องเรียนกับ นายเกรียงไกร ไทยอ่อน พอทราบตนก็ได้เรียกชุดจับกุมทั้งหมดมาพบ ให้รายงานข้อเท็จจริงและสอบถามปรากฏว่าทั้งหมดให้การปฎิเสธ และให้การไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งอ้างว่าไม่ได้เรียกรับเงินจากนางเจี้ยว จากนั้นตนก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ตำรวจเองก็ยังไม่ผิด เพราะเป็นคำกล่าวอ้างของนางเจี้ยว จนกว่าขบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงและขบวนการของศาลจะสิ้นสุด ซึ่งนางเจี้ยว เองก็ยังไม่มีการเปิดหลักฐานที่อ้างว่ามีคลิปแต่อย่างใด
ด้าน นางเจี้ยว กล่าวว่า หลังจากตำรวจได้แจ้งข้อหาตนฐานความผิดติดสินบนเจ้าพนักงานนั้น ตนก็พร้อมที่จะสู้ จริงๆ แล้ว คลิปวิดีโอที่มีหลานสาวของตนถ่ายนั้น ได้เก็บเอาไว้อย่างดี ตนพร้อมจะนำไปยื่นต่อศาล ว่าตนถูกตำรวจเรียกรับเงินจริง เพื่อให้ศาลพิจารณายอมรับว่าตนอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
