ผู้ปกครองโวย อาจารย์วิทยาลัย แอบนำวัวมาเลี้ยงในพื้นที่หอพัก รองผู้ว่าฯ เร่งจัดการปัญหา

วันที่ 18 พ.ค. นายวสันต์ ถนอมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เข้าตรวจสอบบ้านพักนักศึกษาชาย ภายในวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง ที่มีจำนวนเกือบ 40 หลัง หลังมีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า นายวิรัตน์ กาญจนพรหม อาจารย์แผนกวิชาสัตวศาสตร์ ของวิทยาลัยแห่งนี้ ได้นำวัวฝูงกว่า 20 ตัว มาเลี้ยงไว้ในบ้านพักนักศึกษาชาย เป็นเวลานานกว่า 4 ปีแล้ว ทำให้บ้านพักนักศึกษาชาย มีสภาพเสื่อมโทรม จนต้องประกาศปิดเพื่อทำการซ่อมแซมตั้งแต่ปี 2558 แต่ระหว่างรองบประมาณในการซ่อม เจ้าของวัวกลับนำวัวฝูงดังกล่าวเข้ายึดพื้นที่ทั้งหมด พร้อมถ่ายมูลในบ้านพักเต็มทุกหลัง รวมทั้งในห้องน้ำ สนามหญ้า และทางเท้า นอกจากนั้น ยังมีการผูกวัวไว้ตรงช่องหน้าต่าง และเสาบ้านพัก ทำให้พังเสียหายเกือบทั้ง 40 หลัง


ทั้งนี้ระหว่างการตรวจสอบของคณะรองผู้ว่าฯ พบว่า มีวัวบางส่วนผูกล่ามไว้กับต้นไม้ในบ้านพักนักศึกษาชาย จนส่งผลให้ต้นไม้ที่ปลูกใหม่ยืนต้นตาย ส่วนบนถนนหน้าบ้านพักทุกหลัง มีมูลวัวเต็มถนน และส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางวิทยาลัยเกษตรฯ เคยเรียกอาจารย์เจ้าของวัวมาพูดคุยแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ผล จนกระทั่งเปิดเทอมใหม่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีผู้ปกครองเข้ามาเห็นสภาพบ้านพักนักศึกษาชาย แล้วทนไม่ไหว จึงร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน และทางจังหวัดให้เข้าช่วยเหลือ เนื่องจากบุตรหลานไม่มีบ้านพัก ทำให้ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายในการเช่าหอพักข้างนอก ซึ่งสิ้นเปลือง และไม่ปลอดภัยในการเดินทางไปเรียนหนังสือ ถึงแม้ว่าทางวิทยาลัยเกษตรฯ จะพยายามให้นักศึกษาส่วนหนึ่งไปอาศัยอยู่ยังบ้านพักของอาจารย์แล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และไม่สะดวกกับนักศึกษา


ด้าน นายชุมพล รัตนกระจ่าง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาการร้องเรียนขึ้น ทางวิทยาลัยได้ทำหนังสือถึงเจ้าของวัว และบุคคลภายนอกบางส่วนที่นำวัวมาเลี้ยง รวมทั้งหมดกว่า 200 ตัว ให้นำวัวออกจากรั้ววิทยาลัยฯ ภายในวันที่ 31 พ.ค. นี้ เพราะวัวของทางวิทยาลัยนั้นมีเพียง 5-6 ตัว ที่เลี้ยงไว้เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ แต่ส่วนที่เหลืออีกจำนวนมาก เป็นของอาจารย์ในวิทยาลัย และคนนอกอีกประมาณ 5-6 ราย ซึ่งหากฝ่าฝืนทางวิทยาลัยจะแจ้งความดำเนินคดี และยึดวัวทั้งหมดเป็นของวิทยาลัยทันที เพราะจากการตรวจสอบ พบมูลวัวเต็มอยู่ในบ้านพักนักศึกษาชายทุกหลังจริงๆ ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย จึงอยากให้หาทางออกร่วมกัน และซ่อมแซมให้เป็นที่พักนักศึกษา หรือทำกิจกรรมอื่นใดก็ได้ นอกจากนั้นทางวิทยาลัยก็จะทำการปลูกต้นไม้ และปรับภูมิทัศน์ในบริเวณนี้ต่อไปด้วย